เดือนพฤษภาคม ปี’65 ธุรกิจเลิกกิจการ 1,102 ราย อันดับ 1 ‘ธุรกิจก่อสร้าง’

เดือนพฤษภาคม ปี’65 ธุรกิจเลิกกิจการ 1,102 ราย อันดับ 1 ‘ธุรกิจก่อสร้าง’

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย เดือนพฤษภาคม ’65 ธุรกิจเลิกกิจการ 1,102 ราย อันดับ 1 ‘ธุรกิจก่อสร้าง’

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 ว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ โดยมีผู้ประกอบธุรกิจยื่นจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,917 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท

ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 543 ราย คิดเป็น 9%

2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 382 ราย คิดเป็น 6%

3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 225 ราย คิดเป็น 4%

โดย แบ่งตามช่วงทุน มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,111 ราย คิดเป็น 69.48% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,726 ราย คิดเป็น 29.17% รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 1.17% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.18% ตามลำดับ

ขณะที่มีธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนพฤษภาคม 2565 จำนวน 1,102 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 3,760.77 ล้านบาท

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 141 ราย คิดเป็น 13%

2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 52 ราย คิดเป็น 5%

3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 36 ราย คิดเป็น 3%

แบ่งตามช่วงทุนมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 819 ราย คิดเป็น 74.32% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 233 ราย คิดเป็น 21.14% รองมาคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 42 ราย คิดเป็น 3.81% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 8 ราย คิดเป็น 0.73% ตามลำดับ

สำหรับ ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 496,968 ราย คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 249,016 ราย คิดเป็น 29.72% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.19% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,998 ราย คิดเป็น 8.95% รวมมูลค่าทุน 2.06 ล้านล้านบาทคิดเป็น 10.28% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,858 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 16.70 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.38% ตามลำดับ

ทั้งนี้ อนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 41 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 22 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 18,695 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 237 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 55,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม – พฤษภาคม 2564)

สำหรับ นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่

1. ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 14,440 ล้านบาท

2. สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,653 ล้านบาท

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 458 ล้านบาท

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง