มงคลกิตติ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการแก้ปัญหาด้านการศึกษาของประเทศ 16 ข้อ สไตล์ อ.เต้ 007 รวดเร็ว ปราดเปรียว เร้าใจ
วันที่ 12 มิ.ย. 62 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ในอนาคตหากตนได้ดูแลเรื่องการศึกษา จะดำเนินการตามสไตล์ อ.เต้ 007 รวดเร็ว ปราดเปรียว เร้าใจ เพื่อให้ผลงานต่างๆ เป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน โดยเนื้อหาทั้งหมด มีดังนี้
ปัญหาการศึกษาไทยมีหลายส่วนด้วยกัน ถ้าผมได้มีโอกาสเข้าไปบริหารการศึกษาของชาติในอนาคต ศธ. ซึ่งมีหน่วยงานในกำกับ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐ (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษา (สอศ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สภาการศึกษา การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) การศึกษาเอกชน (สช.) องค์การค้าของ สกสค. และ คุรุสภา ภายใน 6 เดือน ผลงานต้องออกมาสำเร็จเป็นรูปธรรม ตามสไตล์ อ.เต้ 007 รวดเร็ว ปราดเปรียว เร้าใจ จะต้องดำเนินการดังนี้
1.เราต้องดูแลเด็กตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-อนุบาล ช่วง 1.5-6 ขวบ อย่างดีที่สุด เป็นช่วงที่พัฒนาสมองดีที่สุด อาทิ อาหารเสริมสมอง ทักษะคิดวิเคราะห์ ความฉลาดทางอารมณ์ งบอุดหนุน บุคคลากรต้องพร้อม
2.จัดการเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนใหม่ ทุกระดับ กับ ขนาดโรงเรียนให้สอดคล้องกัน โดยไม่มีจุดรั่วไหลในการทุจริตงบรายหัวที่ซ้ำซ้อนกัน
3.แก้ปัญหาราคาหนังสือแบบเรียน สำหรับนักเรียน 9 ล้านคน อาทิ คณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ ของ สสวท. ภาษาไทย ของ สำนักวิชาการ สพฐ. ที่มีราคาแพงมาก ไม่สอดคล้องกับภาคเอกชนที่มีราคาถูก ทำให้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักเรียนได้หนังสือไม่ครบ 8 กลุ่มสาระ ได้แค่ 3 สาระ เพิ่มภาระผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์เงินอุดหนุนค่าหนังสือรายหัวนักเรียน

มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ไทยศรีวิไลย์ (ภาพจาก FB พรรคไทยศรีวิไลย์)
4.ส่งเสริมให้นักเรียนทุกระดับซึมซับอยู่ในสายเลือดของความเป็นชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงประวัติศาสตร์ของชาติไทย ที่มีมาอย่างยาวนานกว่าเกือบ 800 ปี
5.แก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย ครู ผู้บริหาร ให้เกิดความยุติธรรม สุจริต เป็นธรรม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี
6.การเลื่อนวิทยะฐานะครู ขึ้นอยู่กับคุณภาพของนักเรียนแรกเริ่ม เปรียบเทียบปัจจุบัน โดยไม่ผูกติดกับการอบรมครู
7.ส่งเสริมให้นักเรียนที่มีความสามารถแต่ละด้านไปให้ถึงที่สุด
8.แก้ปัญหาขนาดห้องเรียนให้เหมาะสมกับคุณภาพผู้เรียน ไม่เกินห้องละ 20 คน (อนุบาล) ห้องละ 30 คน (ประถม) ห้องละ 40 คน (มัธยม) เป็นการกระจายทรัพยากรครู สถานที่ ภาระงานให้ได้ประสิทธิภาพ อีกอย่างเป็นแก้ปัญหาแป๊ะเจี๊ยไปในตัว
9.ส่งเสริมให้นักเรียนศึกษาต่อในระดับอาชีวะศึกษา เพิ่มตลาดแรงงานเฉพาะด้าน ให้มีเงินเดือนตั้งแต่เรียน ปวช1-3 รองรับกับงานภาคเอกชน ที่มีคุณภาพ
10.แก้ปัญหาหนี้สินครู โดยการตัดหนี้ดอกเบี้ยเดิม ตั้งธนาคารครู จ่ายหนี้เก่า เริ่มใหม่ ให้ดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5-4.5%

11.แก้หนี้ องค์การค้าของ สกสค.กว่า 6 พันล้านบาท โดยการใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า รับงานหารายได้เพิ่ม ไม่ปลดพนักงานเก่า
12.ปรับปรุงให้คุรุสภามีความเข้มแข็งในการควบคุมมาตราฐานวิชาชีพ
13.ปรับปรุง สกสค.ให้เพิ่มศักยภาพให้การดูแล ครูและบุคคลากรทางการศึกษา มีประสิทธิภาพมากขึ้น
14.ส่งเสริมให้โรงเรียนเอกชนมีความเข็มแข็ง เพื่อแข่งขันกับโรงเรียนรัฐบาล เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ
15.เพิ่มศักยภาพสภาการศึกษา ให้เป็นมันสมองในการขับเคลื่อนการศึกษาภาพรวม
16.ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ในโรงเรียนและสถานศึกษา
https://www.facebook.com/ajanmongkolkit/posts/2674515959286973









