
จากกรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดประเด็นว่า นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภาระหว่างการลงมติ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ .2563 โดยมีหลักฐานว่าเดินทางกลับต่างจังหวัดและไปร่วมงานวันเด็ก แต่ระหว่างนั้นกลับปรากฏว่ามีการเสียบบัตรลงมติตั้งแต่คืนวันที่ 10 ม.ค. ต่อเนื่องวันที่ 11 ม.ค. จนเกิดข้อสงสัยว่าจะทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณมีปัญหาและเป็นโมฆะหรือไม่

ขอบคุณภาพ : วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา
วันที่ 21 ม.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ว่า เรื่องความผิดส่วนบุคคล นายฉลองเป็นผู้ที่ลืมบัตรไว้ แล้วมีคนนำไปลงคะแนนเสียงแทน กรณีที่เคยเกิดขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ที่เอาบัตรไปลงคะแนนเสียงแทนเป็นผู้มีความผิดไม่ใช่เจ้าของบัตร และต่อมา ป.ป.ช. ก็เอาผิด ซึ่งไม่ปรากฏว่าเจ้าของบัตรต้องรับผิด
.
ส่วนเรื่องกฎหมายที่ลงมติไปแล้วจะมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในอดีต ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านของรัฐบาล (น.ส.ยิ่งลักษณ์) ที่มีเรื่องเสียบบัตรแทนกันด้วย แต่ประเด็นที่ทำให้กฎหมายตกไปคือเรื่องกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญเป็นสาระสำคัญ เรื่องเสียบบัตรเป็นพฤติการณ์ที่ประกอบด้วยแต่ไม่ถึงกับทำให้ร่างตกไป ถ้ามีแค่เรื่องเสียบบัตรแทนกันไม่เชื่อว่ากฎหมายจะตกไป

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวระหว่างการประชุมวุฒิสภาว่า ตนเคยเป็นผู้ร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญในคดีแบบเดียวกันในกรณี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านซึ่งอดีต ส.ส. เพื่อไทย นายนริศร ทองธิราช มีภาพกดบัตรแทนกันชัดเจน แต่กรณีนี้ต่างกันไม่ทราบว่าใครกดบัตรแทน ดังนั้น วุฒิสภาต้องเดินหน้าพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ต่อไป เพราะมีเวลา 20 วัน ไม่สามารถส่งกลับคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎรได้
.
แต่ถ้าเห็นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญก็ต้องเข้าชื่อกันยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมองประโยชน์สาธารณะ เพราะกรณีนี้ไม่ชัดเจนเหมือนที่เคยเป็น ส่วนเรื่องคะแนนก็แตกต่างกันมาก ส.ส.รัฐบาลโหวตเห็นชอบ ส่วนฝ่ายค้านงดออกเสียง ฉะนั้นความแตกต่าง 1 เสียงศาลอาจพิจารณาให้ประเทศเดินหน้าต่อไปให้งบประมาณเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าบอกว่าใช้ไม่ได้ก็ยังใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 62 ไปก่อนได้

ขณะที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการตรวจสอบการเสียบบัตรแทนกันว่า คณะกรรมการตรวจสอบแล้วนายฉลอง ร่วมลงมติในมาตรา 31-55 จริง แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเสียบบัตรช่องลงคะแนนใดและไม่มีกล้องที่จับภาพบุคคลที่ลงมติแทน
.
ข้อสังเกตของคณะกรรมการเห็นว่ากรณีนี้ไม่ทำให้ร่างกฎหมายตกไปเพราะเป็นเพียงเสียงเดียว แต่ก็เคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติให้ติดตามเรื่องนี้ ทั้งเรื่องมาตรฐานจริยธรรมและอาจมีผลให้กฎหมายหลายฉบับถูกตีความว่าเป็นโมฆะหรือไม่ ทั้งนี้ ในมุมมองของนักกฎหมายเห็นว่ากรณีนี้ไม่น่าต่างกับที่เคยเกิดขึ้นตอนกฎหมายกู้เงินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้น ทางออกควรมีการลงมติ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณใหม่









