หัวหน้าพรรคกล้า เปิดข้อมูลแฉ 4 โรงกลั่นน้ำมันทำกำไรสูงสุด 1,000% ย้ำเป็นระเบิดเศรษฐกิจลูกแรก ที่จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) เปิดเผยข้อมูลผลกำไร 4 โรงกลั่นน้ำมันทำกำไรสูงสุด 1,000% พร้อมระบุจข้อความว่า ระเบิดเศรษฐกิจ ลูกแรก ที่จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ผลประกอบการของบริษัทพลังงานไทยออกมาแล้ว ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี น่าตกใจ …น่าตื่นตาตื่นใจ หรือน่าสะเทือนใจ! มาดูกำไร 4 บริษัทโรงกลั่นหลักกัน
- ไทยออยล์ในไตรมาส 2 กำไรเพิ่มขึ้น +1088.9% เทียบกับปีที่แล้ว
ESSO +867.1%
SPRC +825.3%
BCP +199.0%
นายกรณ์ มั่นใจว่าจะมีคำชี้แจงทำนองว่า ปีที่แล้วกำไรน้อย เอามาเปรียบเทียบไม่ได้เพราะเป็นช่วงโควิด” ทีมงานผมจึงได้ย้อนกลับไปดูผลประกอบการไตรมาส 2 ย้อนไปสี่ปีจนถึงปี 2561 ปรากฏเอากำไรของ 4 ปีมารวมกันยังไม่ถึงครึ่งของปีนี้เลย จำได้ไหมว่า 2 เดือนที่ผ่านมาโรงกลั่นรวมตัวกันพยายามบอกเราว่า ค่าการกลั่น ไม่ได้หมายถึงกำไร ตัวเลขมันฟ้องชัดเจนมาก และที่หลายคนไม่รู้ นี่คือ กำไรหลังจากที่โรงกลั่นในเครือ ปตท.คาดการณ์ผิด ไปขายนํ้ามันในตลาดล่วงหน้าที่ต่างประเทศไว้ถึงเกือบ 50% ของกำลังผลิตทั้งหมด ทำให้กำไรหายไปรายละเป็นหมื่นล้านบาท (แต่ประชาชนในประเทศก็ยังต้องจ่ายค่าน้ำมันราคาเต็ม!)
ปกติแล้วผู้ประกอบการมีกำไรเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่การมีกำไรที่เพิ่มขึ้นแบบผิดปกติมากถึงขนาดนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากความทุกข์ร้อนของประชาชน และความเดือดร้อนของภาคธุรกิจอื่นๆ ทุกสาขา ‘ค่าการกลั่น’ เป็นสาเหตุสำคัญที่ราคาหน้าปั๊มเราสูงกว่าที่ควรจะเป็น และเป็นสาเหตุสำคัญที่เรายังต้องใช้ #หนี้กองทุนน้ำมัน ทุกครั้งที่เราเข้าปั้ม และจะต้องใช้หนี้นี้กันไปอีกหลายปี
- ปัญหาไม่ได้มีแค่นี้ ตัวเลขข้างบนคือกำไรโรงกลั่น เรามาดูผลประกอบการของบริษัทค้านํ้ามันกันบ้าง
PTTOR +103.7%
PTG +20.7% (+275.3% เทียบกับไตรมาส 1 ปีนี้)
รายได้ส่วนใหญ่ของทั้งสองบริษัทมาจากการขายนํ้ามันให้พวกเรา ซึ่งก็เป็นประเด็นกังขามาตลอดว่า ‘เวลาราคาน้ำมันจากโรงกลั่นลดลง ทำไมราคาหน้าปั๊มไม่ลดตาม?’
• คำตอบอยู่ที่ค่าการตลาด ที่ผ่านมาหลายเดือนปัญหาอยู่ที่ค่าการตลาดกรณีน้ำมันเบนซิน ไม่ว่าจะเป็น Gasohol 95 หรือ 91 วันนี้ค่าการตลาดอยู่ที่ 3บาทต่อลิตร สูงเกินเกณฑ์ปกติอย่างมาก แต่ก็ไม่เห็นว่ากระทรวงพลังงานเดือดร้อนแทนประชาชนเลย และผลก็คือกำไรของ ’ยักษ์ใหญ่’ ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวนี่เอง เป็นตัวฟ้องชัดเจนว่า รัฐมนตรีและรัฐบาลเลือกที่จะอยู่ข้างใคร
เพราะทั้งหมดนี้เป็น ***กำไรบนความเดือดร้อนของประชาชน***
หัวหน้าพรรคกล้า ระบุว่า ขอทวงถามท่านรัฐมนตรีว่า มาตรการต่างๆ ที่ท่านออกมาชี้แจงต่อสังคมเมื่อสองเดือนที่แล้วนั้น วันนี้หายไปไหนหมด หรือว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปแล้ว วันนี้เลยไม่ต้องสนใจ
ทั้งหมดนี้มีผลโดยตรงต่อ ‘อัตราเงินเฟ้อ’ และปัญหา ของแพง ซึ่งเป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทำดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นมา 0.75% ในปัจจุบัน และอาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายครั้ง
ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็สร้างความเดือดร้อนให้ผู้กู้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่มีหนี้ท่วมหัวอยู่แล้ว หรือจะเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ขอทบทวนมาตรการที่เราเคยเสนอไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการปรับสูตรการกำหนด ‘ค่าการกลั่น’ หรือจะเป็นการเก็บ ภาษีลาภลอย แม้แต่ ‘เงินบริจาค’ เข้ากองทุนน้ำมัน 24,000 ล้านที่ท่านรัฐมนตรีบอกว่า ‘คุยมาแล้ว’ ก็หายไปกับสายลม นี่คือระเบิดลูกแรกที่ผมพยายามบอกว่าต้องรีบปลดชนวน เพราะมันจะนำไปสู่ระเบิดเศรษฐกิจลูกอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา
https://www.facebook.com/KornGoThailand/posts/pfbid0EYSJdojPmBbpvt3RdgaXKcYtpgM1wCKabdCtHjTrfPut7fY7CVKUWnf8AXoVBCS9l










