ไม่ใช่เหตุผลเรื่องรถติด ออฟฟิศไกลบ้าน หรือความขี้เกียจ ที่ทำให้คนทำงาน Gen Z ปฏิเสธการกลับเข้าออฟฟิศ เพราะล่าสุดผลสำรวจจาก ‘Empower’ บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินในอเมริกาบอกว่า แม้ Gen Z จะเข้าสู่โลกการทำงานได้ไม่นาน แต่พวกเขากลับปฏิเสธเงินเดือนก้อนโตเพื่อแลกกับเงื่อนไขเรื่องการทำงานจากที่บ้านเพราะอยากใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากกว่า
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Quartz บอกว่า ‘Empower’ ได้ทำการเก็บผลสำรวจจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวอเมริกันกว่า 1,000 คน พบว่า มีมากถึง 94% ที่มองว่า สัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติกับสัตว์เลี้ยงด้วยการใช้จ่ายชนิดที่เรียกว่า ‘เปย์ไม่อั้น’
โดยเฉลี่ยแล้ว กลุ่มตัวอย่างบอกว่า มีการใช้จ่ายไปกับสัตว์เลี้ยงหมาแมว 1,355 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราวๆ 45,388 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นค่าอาหารทั้งสิ้น และหากเทียบกันระหว่างหมากับแมวพบว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับน้องหมาเยอะกว่าราวๆ 14% โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ ‘โกเด้นรีทรีฟเวอร์’ ใช้จ่ายสูงสุด 1,780 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือเกือบๆ 60,000 บาท
[ ยอมเปลี่ยนงาน เงินเดือนน้อยลง ขอแค่ได้อยู่กับ ‘ต้าว’ มากขึ้น ]
หมาแมวมีค่าใช้จ่ายเยอะ ยิ่งรักมากก็ยิ่งเปย์หนัก แต่ในทางกลับกันสิ่งที่มากกว่าการดูแลทางกาย คือการเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงด้วยเวลาที่มากกว่าเดิม คนทำงาน Gen Z บอกว่า พวกเขายอมเงินเดือนน้อยลงถ้าได้ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงที่บ้านมากขึ้น มีมากถึง 31% บอกว่า ยอมลดเงินเดือนเพื่อได้ทำงานในออฟฟิศที่มีชั่วโมงการทำงานยืดหยุ่น
หรือเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่แค่ Gen Z แต่ยังพบว่า คนอเมริกันทุกช่วงวัยกว่า 41% บอกว่า พวกเขาจะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศก็ได้ หากได้รับอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปอยู่ด้วย โดยความนิยมในการเลี้ยงหมาแมวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดใหญ่โควิด-19 ยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน คนทุกเจนเลี้ยงหมาแมวเพิ่มขึ้น แต่มากที่สุด ทุ่มที่สุดยังคงเป็น Gen Z
เหตุผลที่ Gen Z ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าเจนอื่นๆ เนื่องจากคนเจนนี้วางแผนที่จะไม่มี ‘Human Babies’ หรือลูกที่ให้กำเนิดด้วยตัวเอง โดยการใช้จ่ายเพื่อหมาแมวของ Gen Z สูงกว่าเจเนอเรชันอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับคนรุ่น Baby Boomers พบว่า Gen Z จ่ายมากกว่า 1,056 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 35,342 บาทต่อปี
พฤติกรรมเปย์ไม่อั้นของ Gen Z ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะพวกเขามองว่า อย่างไรค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็ยังวางแผนง่ายกว่าการซื้อบ้านหรือมีลูก แม้ว่าสัตว์เลี้ยงกับการมีลูกเป็นของตัวเองไม่อาจทดแทนประสบการณ์กันได้ ทว่า หมาแมวก็เปรียบเหมือนการเปิดประตูสู่ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างคู่ของตัวเองด้วย
[ เลี้ยงหมาแมวเยอะ ดัน ‘สัตว์แพทย์’ อาชีพมาแรงปี 2025 ]
อานิสงส์ความร้อนแรงของการเลี้ยงหมาแมว ส่งผลให้ ‘สัตวแพทย์’ ติดโผอาชีพมาแรงที่สุดแห่งปี 2025 คว้าอันดับ 1 จากรายงาน Best Jobs of 2025 ไปครอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สัตว์แพทย์ขึ้นเบอร์ 1 อาชีพที่มีการเติบโตมากที่สุดประจำปี นับตั้งแต่ Indeed ทำการเก็บผลสำรวจมาตั้งแต่ปี 2019
จากทั้งหมด 25 ตำแหน่งงานในโผ พบว่า ‘สัตวแพทย์’ เป็นตำแหน่งที่มีมากที่สุดในตลาด อีกทั้งส่วนแบ่งอาชีพดังกล่าวในตลาดยังเพิ่มขึ้นกว่า 124% นับตั้งแต่ปี 2021 จนถึง 2024 รายงานจาก Indeed ระบุว่า แนวโน้มที่เกิดขึ้นมาจากความนิยมในการเลี้ยงหมาแมวของ Gen Z พบว่า ในอเมริกาอาชีพสัตวแพทย์ได้รับเงินเดือนโดยเฉลี่ย 139,999 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ 4.6 ล้านบาท ขณะที่เงินเดือนโดยเฉลี่ยของชาวอเมริกันอยู่ที่ 66,621 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือ 2.2 ล้านบาท
สถานการณ์ทางการเงิน บวกกับปัญหาสุขภาพจิตที่ Gen Z กำลังเผชิญมากขึ้นเรื่อยๆ การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ๆ มีความสำคัญกับคนเจนนี้มากเป็นพิเศษ ‘ไอต้าว’ เหล่านี้จึงมีคุณค่าทางจิตใจ ช่วยให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกับพวกเขาอย่างมาก










