ศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่โมฆะทั้งฉบับ แต่ให้สภาลงมติวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ใหม่ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ โดยให้รายงานผลต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัย
สรุปประเด็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ( รายงานข่าวระบุว่ามติ 5 ต่อ 4 เสียง) ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ไม่ตกไปทั้งฉบับ (จากกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน) เพราะมีปัญหาที่กระบวนการตราร่างฯ เท่านั้น ไม่มีประเด็นกระทบข้อความที่เป็นสาระสำคัญของร่างฯขัดรัฐธรรมนูญ
- กรณี ส.ส.ไม่มีอยู่ในห้องประชุมแต่มีบัตรแสดงตนและลงมติ ทำให้ผลการออกเสียงในวาระที่ 2-3 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
- ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ผ่านวาระที่ 1 มาโดยชอบแล้ว
- ยกเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศชาติจะต้องได้กฎหมายฉบับนี้ช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าและอุปสรรคในการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดิน
- ศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจสั่งให้สภาผู้แทนราษฎร ลงมติวาระที่ 2-3 ใหม่ให้ถูกต้อง พร้อมรายงานผลต่อศาลทราบภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ ในการลงมติร่างงบฯ 63 วาระที่ 2-3 ใหม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้มีการอภิปรายหรือไม่ต้องอภิปรายก่อนลงมติเป็นรายมาตรา


คดีนี้มีที่มาจากการเปิดเผยว่า ส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลมีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในระหว่างการลงมติ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ในวาระที่ 2 และ 3 จนทำให้เกิดคำถามว่า จะทำให้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเสียไปทั้งฉบับ ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ หรือจะเสียไปเฉพาะมาตรา หรือเป็นความผิดเฉพาะบุคคลไม่กระทบต่อเสียงส่วนใหญ่ที่ลงมติเห็นชอบ โดยก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้ ส.ส. 3 คน ทำหนังสือชี้แจง ประกอบด้วย

นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย

น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย









