กกต. คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ “จักพันธ์” ส.ส. ที่เพิ่งปฏิญาณตนกับสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วต้องหลุดจากเก้าอี้ ฮือฮา “พีระวิทย์ ส.ส. 3 วัน” คืนชีพ เจ้าตัวมั่นใจ ไม่หลุดจากเก้าอี้แล้ว เพราะกำลังจะครบ 1 ปีเลือกตั้ง
วันที่ 28 มกราคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อใหม่ จากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ นายชาติชาย วรพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส. จันทบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเวลา 10 ปี ในคดีปราศรัยใส่ร้ายคู่แข่ง (ใบดำ)
ตามกฎหมายต้องการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ ด้วยวิธีการคำนวณตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 131 วรรคสอง โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องนำคะแนนของนายชาติชาย จำนวน 19,711 คะแนน ออกจากผลรวมคะแนนทั้งประเทศของพรรคประชาธิปัตย์
จากนั้น กกต. ได้คำนวณใหม่ ผลปรากฏว่า จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ลดลง 1 คน จากเดิมได้รับจัดสรร 20 คน เหลือ 19 คน ทำให้ นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ส.ส.ที่เพิ่งเลื่อนลำดับขึ้นมาแทน นายกรณ์ จาติกวณิช ที่ลาออกจากพรรค ต้องหลุดจากเก้าอี้ ส.ส.
ขณะที่ พรรคไทรักธรรม ได้รับการจัดสรร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อใหม่ 1 คน จากเดิมไม่ได้รับการจัดสรรเลย ส่งผลให้ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคไทรักธรรม ได้กลับเข้าสภาเป็น ส.ส. อีกครั้ง

(นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค พรรคไทรักธรรม)
นายพีระวิทย์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค. 63) ตนจะเดินทางไปรับหนังสือรับรองจาก กกต. เข้ารายงานตัวเพื่อปฏิญาณตนในที่ประชุมสภา และเชื่อว่า ตนเองจะไม่หลุดจากเก้าอี้ ส.ส. อีก และถือเป็นประวัติศาสตร์ของสภาที่ตนเป็น ส.ส.ชุดที่ 25 ถึงสองสมัย
ส่วนการทำงานทางการเมือง ตนได้เซ็น MOU ร่วมงานกับพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่ได้เป็น ส.ส. สมัยแรก โดยตนจะเข้าไปอยู่กับกลุ่มของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่จับมือกับกลุ่มกิจสังคมใหม่
สำหรับฉายา “ส.ส. 3 วัน” ของนายพีระวิทย์ เกิดจากการเข้าสภาทำหน้าที่ ส.ส. ได้เพียง 3 วัน แล้วก็ต้องหลุดจากเก้าอี้ เนื่องจากมีการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 เชียงใหม่ ของน.ส.ศรีนวล บุญลือ ทำให้ครั้งนั้นนายพีระวิทย์ ต้องหลุดจากเก้าอี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หัวหน้าพรรคไทรักธรรมระบุ ขอเป็นรัฐบาลเท่านั้น แนวโน้มเข้าร่วมพลังประชารัฐมากกว่า









