พรรคประชาธิปัตย์มีมติเลือก ‘เดชอิศม์’ นั่งรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ขณะที่นายชัยชนะ ส.ส.นครศรีธรรมราช นั่งรองเลขาธิการพรรค
วันที่ 18 ธ.ค. 2564 บรรยากาศประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2564 เป็นไปอย่างคึกคัก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ สมาชิกพรรคเข้าพรรคประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
วาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างลง ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ แทนนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ที่ลาออกไป ตำแหน่งนี้มีผู้เข้าชิงเพียง 2 คน คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา หมายเลข 2 และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช หมายเลข 1 เลือกโดยวิธีเข้าคูหากาบัตรลงคะแนนองค์ประชุม 350 คน ผลการนับคะแนนปรากฎว่า นายเดชอิศม์ ได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ด้วยคะแนน 58.9% ขณะที่นายชินวรณ์ ได้คะแนน 39.4% ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3%
หลังจากนั้นเป็นการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคแทนนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่ลาออก ที่ประชุมีมติเลือกนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นรองเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนน 91.9 เปอร์เซ็นต์
ด้ายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เปรียบเหมือนเครื่องบินมีตกหลุมอากาศบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ อาจมีเลือดไหลออกบ้าง แต่ก็มีเลือดใหม่ไหลเข้ามา และเลือดเก่าไหลกลับ ถือว่าเป็นพรรคการเมืองของทุกรุ่น หลังการเลือกตั้งปี 2562 ต้องยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคขนาดกลางมีเพียง 52 ที่นั่ง การตัดสินใจจึงแบ่งเป็น 2 ทาง คือ เป็นฝ่ายค้านและร่วมรัฐบาล แต่สุดท้ายพรรคก็ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ด้วยการลงมติภายใต้เงื่อนไขในการเลือกกระทรวงหลัก คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทีได้มาโดยการเจราจา เป้าหมายสำคัญ คือ การทำงานเพื่อประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ผู้ด้อยโอกาสต้องได้รับการดูแล จึงทำให้สามารถมีโอกาสดูแลประชาชนทั่วประเทศในหลากหลายอาชีพ ไม่ต่ำว่า 50 ล้านคน รวมถึงเงื่อนไขนโยบายที่รัฐบาลต้องนำประกันรายได้เข้าไปเป็นนโยบายของรัฐบาล และการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการยืดหลักซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งสามารถทำได้ครบแล้ว
ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. นายจุรินทร์ กล่าวว่าได้มีการระดมสมพะกำลังทั้งหมดช่วยกันทำงานเพื่อพรรค และนายอภิสิทธิ์ ที่จะร่วมในการรณรงค์หาเสียงผู้ว่าฯ กทม. แม้ประชาธิปัตย์จะไม่ใช่พรรคใหญ่ที่สุด แต่เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ประชาชนตั้งความหวังไว้มากที่สุด เป็นพรรคของประชาชน ต้องไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
