‘ศุภณัฐ’ ถาม ‘ชาดา’ ตอบ ปมนายกฯ สั่งแก้กม. อสังหาฯ ต่างชาติเช่า 99 ปี

‘ศุภณัฐ’ ถาม ‘ชาดา’ ตอบ ปมนายกฯ สั่งแก้กม. อสังหาฯ ต่างชาติเช่า 99 ปี

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (4 กรกฎาคม 2567) พิจารณากระทู้ถามสดของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล โดยนายศุภณัฐ ตั้งกระทู้ถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายให้สิทธิต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และเปิดกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิเช่าได้ไม่เกิน 99 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาเป็นผู้ตอบแทน ซึ่งนายอนุทิน ได้มอบหมายต่อให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้ตอบกระทู้

นายศุภณัฐ ได้ถามกระทู้เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่เห็นชอบตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอขอให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายให้สิทธิต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% เปิดกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิเช่าได้ไม่เกิน 99 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า เหตุใดจึงรีบร้อนจะแก้กฎหมายเร่งด่วนเช่นนี้ ในขณะที่ต่างชาติถือครองคอนโด 16% และเห็นว่า เมื่อชาวต่างชาติเข้ามาซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ จะทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้น ยิ่งทำให้คนไทยไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ และชาวต่างชาติที่เข้ามาเช่าก็มีสิทธิ์เช่นเดียวกับเป็นเจ้าของที่ดิน 99 ปี โดยสามารถส่งเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้ด้วย

นายชาดา ชี้แจงว่าตนไม่ได้อยู่ในวันที่ครม. มีมติในเรื่องนี้ แต่ก็ได้ศึกษาและได้รับนโยบายจาก รมว.มหาดไทย ให้ไปศึกษาผลได้ ผลเสีย ผลกระทบ ซึ่งกรณีทรัพย์อิงสิทธิ์ที่จะเป็น 99 ปี เป็นการจัดการของเจ้าของที่ที่ไม่อยากจะขาย เป็นการให้เข้าไปปรับปรุง ซึ่งกรณีกฎหมายนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการเช่าเหมือนเกาะฮ่องกง และต้องยอมรับว่ากฎหมายที่จะให้ต่างชาติที่เป็นแหล่งเงินทุนเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะตายตัวไม่ได้ ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไข เพราะในภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างหนึ่ง เราก็อาจไม่ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ แต่ในสภาพเศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่งเราก็ต้องการเงินทุนจากต่างชาติ ปัญหาคือการที่ เราจะให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย ก็ต้องดูว่าเป็นแหล่งเงินทุนของต่างชาติไม่ได้เข้ามาครอบครอง หรือยึดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งขอเรียนว่าคนไทยก็กลัวกฎหมายแบบนี้ เกรงว่าคนต่างชาติมาครอบงำประเทศไทย แต่ในภาวะหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าถ้าเราอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องปรับปรุงเรื่องข้อกฎหมาย แต่เรื่องนี้ในนายกรัฐมนตรีให้ศึกษาไม่ได้ให้ทำเลย และวันนี้กรมที่ดินก็กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้เรื่องให้ต่างชาติถือครองคอนโดมากกว่า 49% เคยมีมาแล้ว 5 ปีแล้วยกเลิกไป แต่ขอย้ำว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการ

นายชาดา ย้ำว่าขออย่ามองว่าจะแก้ไขกฎหมายช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการแก้ไขกฎหมายใดๆ ก็ต้องมีการศึกษาและเมื่อเสนอเข้ามาก็ต้องนำเข้าสู่สภา และอยากให้มองเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจกับต่างชาติได้ผลประโยชน์ ซึ่งเราคนไทยไม่อยากให้ใครมาครอบครองแผ่นดินของเราแน่นอน ในความเป็นคนไทยแต่ในบางเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจไม่ใช่กลุ่มใหญ่มากนัก ก็ต้องมาคิดกันดูและวิเคราะห์ ซึ่งตนก็ไม่ยอมให้ชาติไหนมาครอบครองประเทศไทย แล้วเดินกร่างไปทั่ว โดยที่คนไทยไม่มีสิทธิ์เข้าไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องมาศึกษาในแง่ของเศรษฐกิจว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เราจะทำอย่างไร

และวันนี้โลกก็โลกาภิวัฒน์ การเคลื่อนที่ของกลุ่มทุนนั้นมาไวไปไว ทุกคนก็หาประโยชน์จากเงินทุนของต่างชาติเหมือนกัน และในเรื่องของเศรษฐกิจ ต้องทำ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะยกที่ดินให้ใคร และตนก็คงไม่ยอม ใครก็คงสั่งตนไม่ได้ แต่ก็ต้องเอามาดู เพราะหลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอกให้แก้กฎหมายก็มีหลายเรื่อง เช่น เรื่องการแก้ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน ที่พรรคก้าวไกลเสนอมา ตนก็ยังให้มีการศึกษา ตรงนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจว่าเราจะเล่นอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องของการขายชาติเราคง ไม่ยอมแน่นอน แต่ต้องหาเหตุผลที่ดีว่าเหมาะสมหรือไม่กับเวลานี้และสมควรทำหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากันอีกที และเชื่อว่าถ้าเป็นผลเสียมากกว่า หากเสนอกลับไปในคณะรัฐมนตรีก็คงไม่ฟื้นแต่ตอนนี้เป็นคำสั่งที่ว่าให้ไปแก้กฎหมายเหมือนไปศึกษาวิเคราะห์ดูว่าต้องทำอะไรอย่างไร

“เรื่องทรัพย์อิงสิทธิ นี่มันเป็น 99 ปีเนี่ย ท่านนายกฯ สั่งให้ทำ ผมเองผมก็โอเคนะครับ ทราบอยู่และกำลังศึกษาตรงนี้ ก็เรียนด้วยความเคารพครับ ไม่ทราบว่าท่านเข้าใจที่ผมตอบไหมครับ เพราะผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ผมตอบท่านผมก็ยัง งงๆ เหมือนกันนะครับผม” นายชาดา กล่าวตอนหนึ่ง

ทั้งนี้ นายศุภณัฐ กล่าวตอบว่า “จริงๆ ท่านนายกฯ ไม่น่าส่งให้ท่านรัฐมนตรีมหาดไทย และท่านรัฐมนตรีมหาดไทยไม่น่าส่งให้ท่านชาดามาตอบเลยนะครับ ถ้าเกิดท่านจะไม่ได้อยู่ใน ครม. วันนั้น ท่านชาดาคุมกรมที่ดินนะครับ ทรัพย์อิงสิทธิท่านน่าจะทราบอยู่แล้ว” นายศุภณัฐ กล่าวตอนหนึ่ง

และว่า มติครม. ไม่ได้ให้ศึกษา แต่ระบุให้พิจารณาทบทวนแก้ไข พ.ร.บ.  นอกจากนี้ นายศุภณัฐ ยังถามต่อว่า หลังรัฐบาลเข้ามาทำงาน 3 เดือนนายกรัฐมนตรีให้ออกมาตรการ ช่วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 7 มาตรการ โดยบอกว่าจะทำให้มียอดการขายคอนโดมหาศาลและจะมีการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นหลายแสนล้าน ถ้าดีจริงแล้วเหตุใดต้องมาปรับแก้กฎหมายให้สิทธิ์ต่างชาติเช่นนี้อีก พร้อมระบุการกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ แต่ต้องไม่ทำให้ประเทศเสียหายและไม่ต้องทำให้ประเทศได้รับความเสี่ยง และอยากทราบว่า 7 มาตรการ ที่รัฐบาลออกมานั้น ผ่านมา 1 ปีแล้ว คนไทยได้รับผลดีอย่างไร

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง