ประธานทีดีอาร์ไอ แนะจะแก้รัฐธรรมนูญ 60 ต้องเริ่มจากภาคประชาชน เลือกบางประเด็นที่คนเห็นพ้องต้องกัน อย่าแตะประเด็นอ่อนไหว “รื้อคดีทักษิณ” ขณะที่ “ธนาธร” ยืนยันต้องเยียวยาให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในรอบ 10 ปี ไม่ว่าจะชื่อ-นามสกุลใด
ในงานเสวนา “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันอาทิตย์ ที่ 8 ก.ย. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 60 มีกระบวนการสำคัญ คือ การผ่านประชามติ แม้จะมีเครื่องหมายคำถามว่า กระบวนการประชามติตรงไปตรงมาหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ผ่านมาดังนั้นจึงมีความชอบธรรมระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นกระบวนการที่จะไปแก้รัฐธรรมนูญต้องคิดถึงประเด็นนี้ว่า อะไรที่จะมีความชอบไปมากกว่าประชามติ นั่นก็คือต้องริเริ่มมาจากภาคประชาชนเอง เหมือนกรณี Brexit รัฐบาลอังกฤษก็กุมใจเพราะไปผ่านประชามติมา รัฐสภาแม้ไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถไปขัดหรือฝืนประชามติได้ โจทย์ Brexit ก็คล้ายกับประชามติรัฐธรรมนูญปี 60 ของไทยว่า ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ คนเข้าใจมากน้อยเพียงใด
เพราะฉะนั้นต้องใช้วิธี “ประชาชน” เสนอแก้กฎหมายให้เริ่มจากภาคประชาชนให้มากที่สุด จะทำได้คือต้องทำให้รัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นเป็นของทุกฝ่ายไม่ใช่รัฐธรรมนูญของผู้ชนะ อย่างที่มีถูกบอกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อเรา จะเป็นรัฐธรรมนูญของทุกฝ่ายต้องเลือกแก้เรื่องที่สำคัญจริงๆ คนมีความเห็นพ้องต้องกันอยู่สูง เรื่องหาวิธีประสานความแตกต่างซึ่งไม่ขัดแย้งกัน และอย่าเลือกประเด็นที่มีความอ่อนไหวต่อความชอบธรรมมากเกินไป โดยเฉพาะประเด็นเช็คบิลย้อนหลังมันควรเป็นประเด็นที่มองไปข้างหน้า แน่นอนในอดีตมีประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่

“ผมเรียนตามตรง ไม่ค่อยสบายใจเวลาคุณธนาธรพูดว่า จะไปรื้อฟื้นคดีคุณทักษิณ ถ้าทำอย่างนี้แน่นอนถกเถียงกันได้ว่า กระบวนการเล่นงานคุณทักษิณมีปัญหาหรือไม่มีปัญหากันอย่างไร แต่โดยตัวมันเองในสังคมไทยจะมีคนจำนวนมากที่ไม่ชอบคุณทักษิณอยู่ แล้วการที่เอาประเด็นอย่างนี้ คนเข้าใจว่าอยู่ในแพ็คเกจของการแก้รัฐธรรมนูญด้วย มันก็จะมีคนเกือบครึ่งหนึ่งที่จะคัดค้าน จะตกตั้งแต่แรกเพราะฉะนั้นผมอยากให้เลือกประเด็นให้ดี ให้เป็นประเด็นที่ประสานคนไม่ใช่แบ่งแยกคน
อีกเรื่องคือ ท่าที ผมเห็นด้วยกับคุณชายปรีดิยาธร (เทวกุล) ว่า ต้องระวังอย่าให้หมั่นไส้ ต้องเป็นวิธีการสื่อสารที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมมีความไม่ค่อยสบายใจเวลาถกเถียงกันทางการเมือง ผมยังคิดว่า แม้เสื้อเหลืองเสื้อแดงไม่มีแล้ว แต่ผมคิดว่า มันยังมีความขัดแย้ง แบ่งแยกทางการเมืองอยู่คล้ายๆ เดิมแทบไม่ค่อยต่าง และมีการใช้คำพูดดูถูกถากถางกัน เช่น ฝังหนึ่งเรียกฝั่งหนึ่งว่า สลิ่ม อีกฝั่งเรียกว่า ควายแดง ผมคิดว่าถ้าจะทำประเด็นใหญ่ที่ร้อยเรียงคนเข้าด้วยกันต้องหลีกเลี่ยงการใช้วาจาเช่นนี้ ต้องมี มธุรสวาจา ปิยวาจา ที่สำคัญฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตยต้องใจกว้าง เพราะประชาธิปไตยเป็นเวทีเปิดให้คนมีส่วนร่วมแม้คนๆ นั้นไม่ได้คิดเหมือนตัวเอง ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยต้องเป็นฝ่ายก้าวหน้าจะต้องมีความใจกว้างด้วยกระบวนการนี้จึงจะสำเร็จได้” ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าว

ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ชี้แจงนายสมเกียรติว่า เรื่องประเด็นดึงคุณทักษิณกลับมา จริงๆ ผมไม่ได้พูดแบบนั้น สิ่งที่ผมบอกคือคนทุกคนที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในรอบ 10 กว่าปี ไม่ว่าจะชื่ออะไร นามสกุลอะไร ต้องคืนความเป็นธรรมให้เขาไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน สีไหน เรายังแคร์ในเรื่องความเป็นธรรมในสังคมนี้อยู่ มีหลายคนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ถูกเข้าคุกเพราะกรรมที่เขาไม่ได้ทำไว้ ยืนยันว่าต้องคืนความเป็นธรรม อย่างเช่นวิทยากรบางคนพูดถึง เราต้องมีมาตราการ 66/23 ขึ้นมาอีกรอบ เยียวยาทุกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพื่อดึงสังคมกลับมาร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง
https://www.facebook.com/politicsthai2/videos/778606472556428/









