ตำนานวีลแชร์เรซซิ่ง “ประวัติ” กับความภูมิใจของคนไทย | START YOUR IMPOSSIBLE

ตำนานวีลแชร์เรซซิ่ง “ประวัติ” กับความภูมิใจของคนไทย | START YOUR IMPOSSIBLE

กีฬา

ในวัย 40 ปี ประวัติ วะโฮรัมย์ สร้างเกียรติประวัติสุดมหัศจรรย์ ด้วยการลงแข่งพาราลิมปิกถึง 6 ครั้ง คว้าเหรียญได้ถึง 16 เหรียญ เขาได้พิสูจน์นิยามของคำว่า “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” ออกมาได้อย่างสง่างาม

ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย รวมไปถึงทั้งอาเซียน ไม่เคยมีนักกีฬาคนไหน ที่ยืนระยะได้อย่างยาวนานขนาดนี้ และไม่ใช่แค่ “เข้าร่วม” เท่านั้น แต่ประวัติยังทำผลงานดี ถึงขนาดได้ลุ้นเหรียญมาตลอดทุกทัวร์นาเมนต์

ประวัติเริ่มต้นรับใช้ชาติเป็นครั้งแรกในพาราลิมปิกที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ตอนนั้นเขาอายุแค่ 19 ปี ไม่มีใครคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ จะยืนระยะมาได้เรื่อยๆ พร้อมทั้งพัฒนาฝีมือให้แข็งแกร่งอยู่ตลอด จน 21 ปีผ่านไป เขาก็ยังลงแข่งขันอยู่

ความจริงแล้ว หลังจบพาราลิมปิกที่ริโอ เด จาเนโร ประวัติ ณ เวลานั้นอายุ 35 ปี มีคำถามมากมายว่า ได้เวลาหรือยังที่เขาจะรีไทร์จากอาชีพนักกีฬา เพราะการแข่งวีลแชร์เรซซิ่ง ต้องใช้พลังกายมหาศาลมาก นักกีฬาส่วนใหญ่ที่ได้เหรียญมักจะมีอายุราวๆ 20-30 ปี มีนักกีฬาไม่มากนัก ที่อายุมากเท่าประวัติแล้ว ยังสามารถทำเหรียญทองได้

แต่ประวัติยังมั่นใจว่า เขายังสามารถรักษาสภาพร่างกายได้ดีอยู่ และสามารถลงแข่งขันได้แม้จะมีอายุราว 40 ปีแล้วก็ตามที นั่นทำให้ประวัติยืนหยัดสู้ต่อไป เพื่อลงแข่งพาราลิมปิกสมัยที่ 6 ของเขากับทีมชาติไทย

ในศึกพาราลิมปิกที่โตเกียว ประวัติได้โควต้าแข่งขันวีลแชร์ทั้งหมด 3 อีเวนต์ ประกอบด้วย วีลแชร์ 800 เมตร คลาส T54, 1500 เมตร คลาส T54 และ 5000 เมตร คลาส T54 โดยคลาส T54 มีความหมายคือ นักกีฬาวีลแชร์ที่ใช้ร่างกายได้ดีตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นไป

ก่อนการแข่ง ประวัติเปิดเผยว่า แม้จะมีอายุ 40 ปีแล้ว แต่เขามีความมั่นใจมาก ว่าจะไปถึงเหรียญ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ฟิตซ้อมอย่างหนักมากๆ ในสนามซ้อมที่ได้มาตรฐานระดับเดียวกับโตเกียว ดังนั้น เมื่อทุกอย่างพร้อมขนาดนี้ จึงหวังว่าจะไปถึงเหรียญให้ได้

ที่ผ่านมา ประวัติลงแข่งพาราลิมปิกทุกครั้ง มีเหรียญติดมือทุกครั้ง ดังนั้นในครั้งนี้ที่โตเกียว เขาเองก็ไม่อยากลงเอยด้วยความผิดหวัง อยากจะคว้าเหรียญให้ได้ต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย โดยใจจริงตั้งเป้าไว้ถึงเหรียญทอง

การแข่งขันรายการแรกของประวัติ คือ 5000 เมตร คลาส T54 โดยความยากของรายการนี้ คือต้องปะทะกับมาร์เซล ฮุก จากสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของสถิติพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งประวัติก็สู้ได้ดีมาตลอด ตอนเหลืออีก 4 รอบสุดท้าย ไล่บี้กับมาร์เซล ฮุก แบบหายใจรดต้นคอ

แต่ในช่วง 1,000 เมตรสุดท้าย ประวัติแผ่วลงไป จนโดนมาร์เซล ฮุก ทำระยะทิ้งห่าง ก่อนจะเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ขณะที่ประวัติร่วงไปอยู่อันดับ 6 อย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่ท้อ เพราะยังมีอีกสองรายการให้เขาได้ลุ้นต่อ

รายการที่ 2 ของประวัติคือ 1500 เมตร คลาส T54 ซึ่งเป็นรายการที่เขามั่นใจมากที่สุด เนื่องจากคว้าเหรียญติดต่อกันมาในพาราลิมปิก 4 ครั้งติดต่อกัน และในคราวที่แล้วที่ริโอปี 2016 เขาคือเจ้าของเหรียญทองด้วย

ประวัติผ่านรอบควอลิฟายด้วยการเป็นอันดับ 1 ขณะที่ในรอบแข่งขันจริงๆ เขาสู้อย่างเต็มที่แล้ว และสุดท้ายจบอันดับ 2 ได้สำเร็จ ด้วยเวลา 2 นาที 50.20 วินาที เป็นสถิติดีที่สุดของทวีปเอเชีย

แม้จะไม่ได้เหรียญทอง แต่การได้เหรียญเงิน ทำให้เขาสร้างสถิติ คว้าเหรียญพาราลิมปิกได้ 6 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน ซึ่งในโลกนี้ มีนักกีฬาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถยืนระยะได้ขนาดนี้ ขณะที่อีกหนึ่งรายการคือ เรซซิ่ง 800 เมตร คลาส T54 ประวัติไม่ได้ผ่านเข้าไปในรอบสุดท้าย

แม้จะได้มาครอง 1 เหรียญ แต่นี่คือเหรียญที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นแสดงให้โลกได้เห็นว่า อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ถ้าหากคุณมุ่งมั่นมากพอ และ “ให้ใจ” กับสิ่งที่ตัวเองรัก ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

สำหรับประวัตินั้น เคยยอมรับว่า ความสุขของเขาหลังจากเลิกเล่นไปแล้ว คือการถ่ายทอดความรู้ ให้กับนักกีฬาในรุ่นต่อๆไป ได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อ อย่างพงศกร แปยอ ฮีโร่ 2 เหรียญทองที่โตเกียวครั้งนี้ ก็ได้รับการส่งต่อศาสตร์ความรู้มาจากประวัติเช่นกัน

นี่คือตำนานของ ประวัติ วะโฮรัมย์ กับสถิติอันเหลือเชื่อ 7 เหรียญทอง, 8 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง พาราลิมปิก รวมแล้ว 16 เหรียญ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกกี่ปี จะมีนักกีฬาไทย หรืออาเซียน ที่สามารถก้าวข้ามความสุดยอดที่ประวัติสร้างเอาไว้ได้

สำหรับคำถามสุดท้ายว่า ประวัติจะเลิกรับใช้ทีมชาติเลยหรือไม่ เจ้าตัวยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการแย้มๆ ว่า อาจจะลองลุยอีกสักทัวร์นาเมนต์ ในพาราลิมปิกปี 2024 ที่ปารีสดูก่อน และถ้าถึงวันนั้นในวัย 43 ปี เขายังมีสภาพร่างกายไหวอยู่ ก็อาจลงแข่ง เพื่อส่งท้ายอาชีพนักกีฬา กับพาราลิมปิกครั้งที่ 7 ของตัวเอง

 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง