วันที่ 25 ก.พ. ที่รัฐสภา การประชุมสภา ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประเด็นหลัก โจมตีเรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปิดเหมืองทองชาตรี ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ทางบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ดประเทศออสเตรเลีย
.
นพ.ชลน่าน กล่าวหาว่าการมีคำสั่งปิดเหมือง เพราะต้องการเหมืองแห่งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับผิดชอบการใช้อำนาจครั้งนี้เองตามที่เคยพูดไว้ในสื่อ ซึ่งอาจมีค่าเสียหาย 4 หมื่นล้านบาท
ต่อมาเวลา 19.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ใช้สิทธิ์ชี้แจง โดยกล่าวถึงการอภิปรายของ นพ.ชลน่านว่า บรรยากาศที่ผ่านมาค่อนข้างซีเรียส รอยยิ้มหายไปเยอะ พร้อมแซวว่า เมื่อตอนกลางวันก็จับมือสวัสดีกัน ไม่รู้กินอาหารผิดหรือเปล่า ถึงอภิปรายดุเดือด
.
ก่อนชี้แจงว่า เหมืองทองของบริษัทอัครา รัฐบาลดำเนินการเปิดสัมปทานมาตั้งแต่ปี 2543 ต่อมามีการขอสัมปทานเพิ่ม 9 แปลง ไปจนถึงปี 2571 แต่ตั้งแต่ 2550-2559 ก็มีการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาตลอด 6 รัฐบาลรวมทั้งรัฐบาลของตนด้วย ว่าได้รับผลกระทบทางเสียง น้่ำปนเปื้อนด้วยโลหะหนักและสารพิษ
.
มีการเดินขบวนทั้งต่อต้านและสนับสนุนเหมือง เรื่องนี้มีการพิสูจน์อย่างต่อเนื่องหลายคณะทั้งทางการและไม่ทางการ ขณะนี้ก็ยังมีการตรวจสอบอยู่
ประเด็นสำคัญ คือ ตนไม่ได้ออกคำสั่งยึดเหมืองมาเป็นของตนเอง แต่ให้ระงับกิจการชั่วคราวเพื่อเคลียร์ปัญหาว่ามีอะไรหรือไม่ แล้วให้ยุติการสำรวจไว้จนสิ้นปี 2559 ก่อนให้ระงับการประกอบกิจตั้งแต่ปี 2560 จนกว่าจะมีมติเป็นอย่างอื่น ต่อมาคิงส์เกตยื่นเรื่องต่ออนุญาโตตุลาการ ตอนนี้เรื่องนี้อยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ
.
ยืนยันการใช้ มาตรา 44 เป็นการระงับใบอนุญาตชั่วคราวของรัฐที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์สาธารณะและสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน ทุกรัฐบาลต้องคิดอย่างนี้ ส่วนความเสียหายที่จะเกิดขึ้นก็ต้องพิจารณา ความเหมาะสม ความมีเหตุมีผล ถ้ามันเสียหาย ตนถามว่าที่ผ่านมามีเสียหายเยอะไหม ทุกเรื่องที่ผ่านมาตนแก้หมดทุกวัน ทั้งหมดเกิดก่อนรัฐบาลตนทั้งนั้น รัฐบาลที่ท่านว่าเก่งทำไมท่านไม่แก้
สำหรับขั้นตอนขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการเป็นทางหลัก และคู่พิพาทก็พยายามหาทางเจรจาคู่กันไปด้วย หลายอย่างอยู่ในกลไกการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ ก็มีทั้งที่ท่านว่าทางโน้นดี เหมือนท่านเชียร์ทางโน้นอยู่เหมือนกัน แต่ตนไม่เชียร์หรอกต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายเสมอ
.
ส่วนที่ต้องให้ยุติไปก่อนแม้ยังไม่ชัดเจนในสาเหตุ เพราะมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องปกป้องประชาชนที่เขาร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2550 ต้องตัดสินใจดำเนินการ รัฐบาลที่รักประชาชนจริงควรทำไม่ต่างจากตน
ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เพราะการพิจารณาเพิ่งเริ่มต้น เมื่อ 29 ต.ค.62 มีการรายงานทางเลือกต่างๆ และอนุญาโตตุลาการ มีคำสั่งบังคับไม่ให้คู่พิพาทเปิดเผยข้อเท็จจริง เอกสารและรายละเอียดในคดีนี้ต่อสาธารณะ โดยให้ลงนามหนังสือรักษาความลับ ฝ่ายใดเปิดเผยถือว่าขัดคำสั่ง เพื่อปกป้องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลต่อรูปคดี
.
“ที่ผมจะยืนยันตรงนี้ คือ เราจะต้องสู้ให้เต็มสติกำลัง ถ้ามีช่องทางใดที่จะเกิดขึ้นได้ ในอันที่จะทำให้มันยุติได้ก็ต้องทำ แล้วก็พิจารณาในเรื่องของมาตรการถ้าสามารถสู้ไม่ได้จะทำอย่างไรกันต่อไป ก็ต้องดำเนินการนะครับ ผมถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล”
.
“ผมอยากฝากประชาชนที่อยู่ทางบ้านนะครับ ถ้าฟังเพลินๆ ก็ดูเหมือนดีอ่ะนะ ที่พูดกันออกมาเมื่อสักครู่ดูเหมือนรักชาติ รักแผ่นดินอ่ะนะ ว่าไป”
