โยคะไม่เหงาเมื่อเรามีน้อน เทรนด์ Doga เมื่อ Dog และ Yoga มาเจอกัน

โยคะไม่เหงาเมื่อเรามีน้อน เทรนด์ Doga เมื่อ Dog และ Yoga มาเจอกัน

เคยได้ยินไหม ยิ่งใช้เวลาร่วมกับสัตว์เลี้ยงของเรามากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของเรากับเขาก็จะยิ่งแน่นแฟ้นมากเท่านั้น แต่ท่ามกลางกิจกรรมมากมายที่คนกับหมาทำด้วยกันได้ ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง ‘โยคะ’ จะกลายเป็นหนึ่งในนั้น

อ่านไม่ผิดหรอก เพราะ Doga หรือ Puppy Yoga คือเทรนด์โยคะที่มาแรงในหลายปีให้หลังมานี้ เริ่มต้นจากอเมริกา และฮิตข้ามทวีปจนมาถึงประเทศไทยบ้านเรา

คอนเซ็ปต์ของมันก็ง่ายแสนง่าย นั่นคือเป็นคลาสที่พาน้องหมามานอนอยู่ข้างเสื่อโยคะ แล้วชวนน้องมายืดเหยียดบ้าง ยกน้องเพื่อฝึกกล้ามเนื้อบ้าง  ทำสมาธิด้วยกันบ้าง ผลลัพธ์อาจจะออกมาผ่อนคลาย เหมือนเล่นโยคะแบบเดิม เพิ่มเติมคือไม่เหงา เพราะมีน้องอยู่เป็นเพื่อนยังไงล่ะ

 [ Doga : โยคะกับเจ้าหมาเพื่อเยียวยาจิตใจ ]

ย้อนกลับไปในปี 2001 หลังจากเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ที่มีเครื่องบิน 2 ลำพุ่งเข้าชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ในมหานครนิวยอร์ก คนทั้งโลกตกอยู่ในความหวั่นวิตก และเศร้าเสียใจ เช่นเดียวกับ Suzi Teitelman ครูสอนโยคะผู้อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก

เพื่อเยียวยาจิตใจ ซูซี่ใช้เจ้า ‘โคอาลี’ (Coali) หมาพันธุ์ค็อกเกอร์สแปเนียลเป็นผู้ช่วย เธออยากอยู่ใกล้กับหมาของเธอให้มากที่สุด จึงพยายามทำกิจกรรมต่างๆ กับเจ้าหน้าขน 

รวมไปถึงช่วงเล่นโยคะประจำวัน ที่เธอสังเกตว่าเจ้าโคอาลีจะเข้ามานั่งๆ นอนๆ ข้างแมทโยคะอยู่เสมอ และนั่นทำให้เธอรู้สึกถึงความสงบสุข และได้เชื่อมสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงได้มากขึ้น ซูซี่รู้สึกว่ากิจกรรมนี้มันช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้จริง เธอจึงปิ๊งไอเดียคลาสเล่นโยคะกับเจ้าหมา 

แรกเริ่ม เธอเรียกว่า ‘Ruff Yoga’ คลาสโยคะ ที่อยากทำให้ความสัมพันธ์ของหมากับเจ้าของแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่แน่นอนล่ะว่า เจ้าหมาทำท่าโยคะแบบคนไม่ได้ กิจกรรมนี้จึงเน้นการนวด การยืดเหยียด การทำสมาธิ และท่าโยคะต่างๆ ที่เอื้อให้เจ้าหมาสามารถเข้ามานวยนาด นั่งๆ นอนๆ อยู่ใกล้ๆ และได้รีแลกซ์ไปพร้อมกันกับเรา 

ถ้าให้สรุปออกมาว่าโยคะกับเจ้าหมามีข้อดีอะไรบ้าง เราอาจจะแบ่งได้เป็น

  • ช่วยกระชับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง เลือกจะไม่มีลูก แต่เลี้ยงหมาประหนึ่งสมาชิกในครอบครัวคนสำคัญ การทำกิจกรรมร่วมกันจะช่วยเพิ่มความไว้ใจ ความเคารพซึ่งกันและกัน ที่สำคัญคือไ ด้มีเวลาอันแสนจะมีคุณภาพ และสงบสุขร่วมกัน
  • ลดความเครียดในชีวิตประจำวัน มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้วว่า การอยู่กับสัตว์เลี้ยงช่วยลดฮอร์โมนความเครียดหรือ Cortisol และเพิ่มฮอร์โมนความรักหรือ Oxytocin ได้ทั้งหมาและคน
  • สร้างสังคมให้ทั้งคนและหมา เพราะในคลาสนี้ทั้งเราและสัตว์เลี้ยงต่างมาเจอเพื่อนร่วมคลาสใหม่ๆ 
  • ทำให้การออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องน่าเหนื่อยใจ คลาสโยคะนี้น่าไป เพราะโยคะกับเจ้าหมายังไงก็ดูเป็นโมเมนต์ที่ผ่อนคลาย ชะโลมจิตใจ ดูไม่ใช่การออกกำลังกายหนักๆ ที่เราอยากผลัดวันประกันพรุ่ง

แต่ยังไงก็ตาม Doga ก็มีสิ่งที่น่ากังวล เพราะคนเล่นโยคะหลายคนอาจมองว่า ท่าโยคะกับน้องหมาบางท่ามีการยกน้องด้วย ซึ่งร่างกายของสุนัขอาจไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ยกในคลาสโยคะ 

นอกจากนั้น น้องหมาบางตัวอาจจะเด็กเกินกว่าที่จะเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ มันอาจรู้สึกเครียด ที่ต้องตัวติดกับเจ้าของตลอดเวลาในห้องโยคะ  บางทีมันอาจจะอยากวิ่งเล่น หรือนอนหลับที่อื่นที่อื่นก็ได้ ยังไม่นับความจริงที่ว่า ถ้าหมาหลายๆ ตัวมาอยู่รวมกันในที่ใดที่หนึ่ง มันอาจจะขู่ กัด ผสมพันธุ์ และตะลุมบอนใส่กันได้เช่นกัน

แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยไอเดียที่แหวกแนว Ruff Yoga ที่ภายหลังถูกเรียกว่า ‘Doga’ และ ‘Puppy Yoga’ ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันก็กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อย่างในไทยเอง ก็มีคลาสโยคะเปิด Doga หลายแห่ง ใครสนใจลองดูจากลิสต์เหล่านี้ได้เลย

พัฒนา Writerพัฒนา

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง