เปิดลงทะเบียน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบใหม่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 เช็กคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ

เปิดลงทะเบียน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบใหม่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 เช็กคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ

เปิดลงทะเบียน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบใหม่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 เช็กคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยกำหนดระยะเวลาในการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65

ช่องทางลงทะเบียน ดังนี้

1. ผ่านทางเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ http://welfare.mof.go.th

2. หน่วยงานรับลงทะเบียนในพื้นที่ทั่วประเทศ

– สำนักงานคลังจังหวัด

– ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ

– สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร

– สำนักงานเมืองพัทยา

– สาขาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

– สาขาธนาคารออมสิน

– สาขาธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)

ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนภายในเดือน ม.ค. 66

ผ่านทางเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ http://welfare.mof.go.th โดยมีรายละเอียด  ดังนี้

2.1 สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านคุณสมบัติจะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน หรือธนาคารกรุงไทย โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่ วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ ช่วงเดือน ม.ค. 66

2.2 สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ สามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์ผ่านทางเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติช่วงเดือน ม.ค. 66

การใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านคุณสมบัติและยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว

ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน  ประชาชนที่บัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ หรือมีบัตรประจำตัวประชาชนที่ไม่ใช่แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ให้เปลี่ยนเป็นบัตร แบบ Smart Card) ส่วนของวันที่จะเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไป สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน จะยังคงใช้สิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเริ่มใช้สิทธิใหม่ผ่านบัตรประจำตัวประชาชน

เช็กคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

3. ไม่เป็นบุคคล ดังต่อไปนี้ ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา

4. รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง

(การคำนวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)

5. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียนต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

(การคำนวณทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมมูลค่าทรัพย์สินทางการเงินของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)

6. อสังหาริมทรัพย์ ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว : บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และ/หรือ ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย: ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

1.1 กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว

– กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา

– กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา

กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

– กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

1.2 กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่

2) ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย : ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่

7. ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

8. ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ ได้แก่ วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า วันอังคารที่ 16 ส.ค. กระทรวงการคลัง จะลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการนี้ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 47 หน่วยงาน

ที่มา : กระทรวงการคลัง 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง