รมว.ศึกษา ขึ้นเวทีดีเบตกลุ่ม นร.เลว ขอให้เลิกชุมนุม ชี้กระทบการลงทุน

รมว.ศึกษาธิการ ขึ้นเวทีพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ยันต้องฟังความเห็นทุกฝ่ายหลายเรื่อง มีคนที่คิดต่างจากนักเรียนที่มาชุมนุมต้องให้ตกผลึกก่อนตัดสินใจ แนะเรียนรู้อดีตมาชุมนุมแล้วส่งผลกระทบภาพใหญ่ประเทศเรื่องการลงทุน

วันที่ 5 ก.ย. 2563 ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดกิจกรรมปราศรัยของกลุ่มนักเรียนเลว นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เดินทางมาขึ้นเวที ดีเบตกับ นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6 ตัวแทนกลุ่มนักเรียน

ในช่วงท้าย นายจักรกฤต โยมพยอม หรือ “ครูทอม คำไทย” ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกร ได้ถามนายณัฏฐพลว่า มีอะไรที่อยากจะร้องขอจากนักเรียน

นายณัฏฐพล กล่าวว่า ก่อนอื่นขอขอบคุณให้เกียรติตนมาพูดบนเวที และให้ความเคารพซึ่งกันและกันระดับหนึ่ง ตนขอเรียนว่า เราเปิดเวทีหลายรูปแบบในการรับฟังความคิดเห็น ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างความกดดันแบบนี้ เพราะบางอย่างที่ทำมีผลกระทบในภาพใหญ่

ตนผ่านกระบวนการนี้มาแล้ว ทราบดีว่าประเทศไทย เปราะบางที่สุดเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ ถ้าหากเราเป็นคนไทยที่ตั้งใจทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพ เหมือนที่เปล่งเสียงร้องเพลงชาติ ต้องคิดถึงเรื่องนี้ด้วย การเอาเรื่องในอดีตมาพูดได้ แต่อดีตที่ผ่านมาไม่ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ

วันนี้เป็นโอกาส ในเวทีด้านการศึกษาตนรับฟังจากท่านและจากทุกๆ คน ที่ตั้งใจจะทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น ตนมีหน้าที่ปฏิบัติ พร้อมรับฟัง และคิดว่าปฏิบัติได้ในหลายอย่างที่พูดถึงในวันนี้

“ท่านไม่ต้องกังวล วันที่ผมคิดว่าผมไม่สามารถทำคุณประโยชน์ให้ประเทศ ผมพร้อมพิจารณาตัวเอง แต่วันนี้ยังปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้อยู่”

นายณัฏฐพล กล่าวด้วยว่า การพูดคุยด้วยสันติวิธีน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาทำไมเราไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะไม่มีการพูดคุย ไม่มีเวทีแบบนี้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเวลาที่ให้ตนมาพูดคุย

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ได้มอบของที่ระลึก เป็นหนังสือเรียน 8 สาระกลุ่มวิชา และไม้เรียว พร้อมกล่าวว่า หวังว่าจะไม่พบสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้อีก พร้อมกันนั้น ยังมอบนกหวีด 44 ชิ้น พร้อมขนมปูไทยและพาน ซึ่งนายณัฏฐพล รับแล้วชูขึ้น ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณนักเรียนที่ฟังอยู่ด้านล่างและลงจากเวที

ก่อนหน้านั้นในช่วงดีเบต นายลภนพัฒน์ ตัวแทนนักเรียน ระบุถึง 3 ข้อเรียกร้อง 1 เงื่อนไข คือ 1.หยุดคุกคามนักเรียน 2.ปรับปรุงบทเรียนที่ล้าหลัง 3.ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ และอีก 1 เงื่อนไข คือ ถ้ารัฐมนตรีทำไม่ได้ควรเปิดทางให้ผู้มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทน