“Thank you Kateyki” ทำไมวลีฮิตนี้ ลิฟต์ก็เอาไม่ลง?

“Thank you Kateyki” ทำไมวลีฮิตนี้ ลิฟต์ก็เอาไม่ลง?

MEDIA

ใครว่าเดี๋ยวก็ไป ‘Thank you Kateyki’ พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าอาจไม่จริง ถ้าจัดวางคาแรกเตอร์ และต่อยอดให้ถูกที่ จากไวรัลก็อาจสร้างมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะบนพื้นที่แพลตฟอร์ม TikTok คอมมูนิตี้ที่คนแปลกหน้าก็หัวเราะด้วยเรื่องเดียวกันได้ 

 

อย่างที่เกิดขึ้นกับ ออน-สมฤทัย สางชัยภูมิ เจ้าของช่อง aonsomruthai ที่จนถึงวันนี้ยอดฟอลในบัญชีของเธอ แตะ 5.3 ล้าน เข้าไปแล้ว คงต้องบอกว่าแรงส่งหนึ่ง ที่ทำโซเชียลแตก มาจากครั้ง ลิซ่าและแบมแบม สองศิลปินระดับโลกชาวไทย ที่อยู่ดีๆ ก็ร่วมจอยความสนุกนี้

แต่ประโยคหนึ่งที่ดังข้ามปีได้ขนาดนี้ น่าจะมีเหตุผลที่อธิบายได้มากกว่านั้น

[จาก Thank you สู่ Thank you Kateyki]

ทั้งที่ทุ่มเทมาตลอด แต่จะมีสักกี่คนที่มีโอกาสรู้จัก ออน สมฤทัย ในฐานะแม่ค้าคนหนึ่งที่ทุ่มเททำงานหนัก เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์มาตั้งแต่อายุ 17 ปี ก่อนจะจับธุรกิจซื้อขายแบรนด์เนม CEO ของ Perrine Porter (เพอร์รีน พอร์ทเทอร์) หรือที่รู้จักกันในนามร้าน SF Brandname ศูนย์รวมการรับซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนม

และหากติดตามตั้งแต่ช่วงต้น คอนเทนต์เกือบทั้งหมดของเธอ ก็ทำขึ้นเพื่อสนับสนุน และต่อยอดธุรกิจในมือนั่นแหละ เพลงเดียวกัน จังหวะเดียวกัน ผู้ติดตามเดียวกัน แต่ “Thank you ka” ด้วยน้ำเสียงสดใส ปนออดอ้อน ของเธอก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนในโลกออนไลน์ซื้อในเวลานั้น 

แต่แล้ว จุดเด่นของคาแรกเตอร์ที่แข็งแรง เมื่อถึงวันนึงที่ตามมาสิ่งที่ขาดไปจนเจอ อะไรก็ฉุดไม่อยู่ คล้ายกับเวลาที่แรแปอร์ ตามหาพันช์ไลน์เด็ดๆ ไว้ดึงคนฟัง ออน สมฤทัย ก็ตามหา ‘teyki’ ของเธอจนเจอ

ว่ากันว่า ที่มาของประโยคนี้ เพียงแค่เธอต้องการขอบคุณ ‘เต้’ บอดี้การ์ด ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ปรากฏอยู่เกือบทุกคอนเทนต์ ด้วยประโยคติดปากคนไทยฉบับน่ารัก ที่ขอเติมกี้ๆ รี่ๆ หลังชื่อเสียหน่อย ถึงได้เป็น ‘ขอบคุณค่าเต้กี้’ และพอชาวต่างชาตินำไปเล่นกันต่อ ก็ดันเอาหางเสียงไปรวมกับชื่อ เพราะคิดว่าเป็นชื่อจริงๆ เสียเลย

cr.AON – ออน สมฤทัย

[สร้างคาแรกเตอร์ ไม่พึ่งมาสคอต]

เวลาจะปั้นแบรนด์ให้ดัง Character Marketing เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ เป็นการสร้างตัวตนให้คนจำ โดยเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับตัวละคร เพราะสามารถกระตุ้นอารมณ์เชิงบวก และสร้างความผูกพันกับผู้คน เมื่อมีโอกาสปรากฏตัวบนสื่อ ก็ยิ่งเพิ่มการรับรู้ เกิดความสนใจในแบรนด์

และถ้าทำถึงอีก โอกาสที่คาแรกเตอร์นั้น จะกลายเป็นไวรัล ให้คนอยากติดตามทั้งออนไซด์และออนไลน์ ก็เกิดขึ้นได้ อย่างที่ ‘หมีเนย’ สร้างปรากฏการณ์มาแล้ว

และเช่นเดียวกัน เราไม่มีทางรู้เลยว่า ออน สมฤทัย บอดี้การ์คู่กาย คุณเต้ ไปจนถึงพี่แม่บ้านที่ก็ปรากฏตัวออกจะบ่อย แท้จริงมีตัวตนอย่างไร แต่ที่แน่ๆ มีผู้คนจำนวนมากที่ร่วมคอมเมนต์พูดคุย ฝากข้อความถึงพวกเขา อย่างกับรู้จักกันมานาน

[ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ติ๊กต็อกเกอร์เจอของเด็ด]

แต่ละมื้อ แต่ละ day

ฉันละปวด head กลุ้ม Heart

มองให้ลึก…

วลีเหล่านี้ ต่างดังเป็นพลุแตกใน TikTok ล้วนแต่ดังเป็นพลุแตกในติ๊กต๊อกทั้งนั้น แต่จะอยู่ยงคงกระพันขนาดไหน ต้องยอมรับ ว่าใครพูดก็สำคัญ อย่างแก๊งหิ้วหวี กลุ่มอินฟลูฯ ที่ผลิตคำฮิตเก่งอย่างกับเครื่องจักร และเมื่อพวกเขาใช้ประโยคเหล่านี้ในโลกออนไลน์จนติดปาก แล้วคนทั่วไปจะอดใจไหวได้ยังไง

จะว่าไป ทั้งหมดนี้ อาจต้องขอบคุณ  TikTok Community ที่เก่งสุดในการเอื้อให้ไอเดียของคนคนหนึ่ง กลายเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าได้มหาศาล ด้วยการจับคนที่มีความสนใจเหมือนกัน ได้มารวมตัวกัน ให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ผ่านคอนเทนต์

อย่างที่ ออน สมฤทัย สามารถใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้นี้ ให้บรรดาอินฟลูฯ ทั้งไทยและต่างประเทศจดจำ และอยากจะทำตาม บางคนก็นำไปใช้ผลิตคอนเทนต์อื่นใกล้เคียง จนกลายเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ทุกคนเติบโตไปพร้อมกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
SmitananWriterSmitanan

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง