กฟผ. เตือนประชาชน รับมือค่าไฟฟ้าแพงขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า เหตุต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก พร้อมขอให้ร่วมกันประหยัดพลังงาน
วันที่ 22 พ.ค. 61 นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียน และพลังงานใหม่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นจะมีผลกระทบราคาก๊าซธรรมชาติให้สูงขึ้นตาม และจะสะท้อนราคาต้นทุนค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที ที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามใน 6 เดือนข้างหน้า โดยหากราคาน้ำมันปรับขึ้นช่วงนี้ จะมีผลต่อต้นทุนค่าเอฟทีประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
สหรัฐ บุญโพธิภักดี (คนกลาง)
เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าเป็นไปตามสูตรการคำนวนราคาก๊าซธรรมชาติ จากน้ำมันเตาร้อยละ 30 ซึ่งปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าจะพึ่งพาก๊าซธรรมชาติร้อยละ 60 หากราคาน้ำมันปรับขึ้นเฉลี่ย 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล จากปัจจุบัน 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล ก็จะมีต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าด้วย แต่ค่าไฟฟ้าจะปรับหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.
ดังนั้น กฟผ. จึงฝากเตือนให้ประชาชน ประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
ด้าน นายสุเมธ สุทธภักดี รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่า การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จะเพิ่มบทบาทของพลังงานทดแทนทุกชนิด ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนของผู้ประกอบการพลังงานทดแทนให้สามารถแข่งขันได้ง่ายขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=8mJkMjIEX7M&t=1s
ขอบคุณภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
