
นายสมคิด เลิศไพทูรย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
ประเด็นคือ – ถก พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ยังไม่ได้ข้อยุติ กรธ.และ สนช.ยังเห็นไม่ตรงกัน นัดลงมติ 27 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.61 ผลการะประชุมร่วมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้ง สนช. และ กรธ. ต่างยืนยันในแนวคิดของตนเอง ใน 3 ประเด็นเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่ม ส.ว., วิธีการเลือกส.ว. และการแบ่งประเภทการสมัคร ส.ว.

นายสมคิด เลิศไพทูรย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วม 3 ฝ่าย กล่าวว่า มีกรรมาธิการ 2-3 คน เสนอแนวคิดของ สนช. ที่กำหนดการแบ่งกลุ่ม ส.ว. เหลือ 10 กลุ่ม และให้เลือกกันเอง รวมทั้งการแบ่งประเภทผู้สมัคร 2 แบบนั้น ให้นำไปเขียนในบทเฉพาะกาล และมีผลให้บังคับใช้ภายหลังที่กฎหมายประกาศ

ส่วนแนวคิดของ กรธ. ตามร่าง พ.ร.ป.เดิม ที่กำหนดกลุ่ม 20 กลุ่ม, ใช้วิธีการเลือกไขว้ และให้ผู้มีคุณสมบัติสามารถเข้าสมัครได้โดยไม่ต้องผ่านองค์กรใด ให้นำไปเขียนบทหลักของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ทั้งนี้ทุกประเด็นจะได้ข้อยุติร่วมกันในวันที่ 27 ก.พ.นี้

นายสมชาย แสวงการ เลขานุการ กมธ.
นายสมชาย แสวงการ เลขานุการ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปใน 3 ประเด็น โดยแต่ละฝ่ายยืนยันในเหตุผลของตนเอง ยังมีวิธีคิดที่แตกต่างกันอยู่ ดังนั้น ที่ประชุมให้แต่ละฝ่ายกลับไปทบทวนและทำการบ้านเพื่อที่จะหาแนวทางที่เป็นข้อยุติร่วมกันโดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายสมชาย มองว่า อาจไม่ถึงขั้นการลงมติเพื่อชี้ขาดก็ได้ เพราะยังไม่ถือว่าเป็นความขัดแย้งกันระหว่าง กรธ.กับ สนช. ส่วนประเด็นเรื่องเวลาเข้าคูหาเลือกตั้งในร่าง พ.รป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ที่ประชุมกมธ.ร่วม มีมติแก้ไขช่วยเวลาลงคะแนนเลือกตั้งจาก 07.00-17.00 น.เป็น 08.00 17.00 น.เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กกต.ได้รับความสะดวก มีเวลาเตรียมการเลือกตั้งก่อนลงเปิดได้ลงคะแนนได้มากขึ้น เพราะเห็นว่า 07.00 น. เป็นเวลาที่ฉุกละหุกเกินไป เจ้าหน้าที่กกต.อาจจะเตรียมตัวกันไม่ทัน









