เมื่อ ‘เลือดเก่า’ ไหลออก หลายพรรคการเมืองเริ่มเฟ้นหา ‘คนการเมือง’ รุ่นใหม่ หน้าใหม่ เพื่อมาร่วมออกแบบนโยบายที่ทันยุคทันสมัย เตรียมรับมือศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ผ่านการเปิดรับสมัครให้เข้าร่วมโครงการอบรมด้านการออกแบบนโยบาย
รายการ HEADLINE สำนักข่าว TODAY ทยอยพูดคุยกับคนการเมืองจากหลากหลายพรรค โดยในครั้งนี้มาเปิดเบื้องหลังโครงการที่เดินทางมาถึงรุ่นที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย อย่าง Pheu Thai YPP หรือ Young Professionals Program กับ พีรวิชญ์ ขันติศุข ผู้อำนวยการ PTP Academy
[จุดเริ่มต้น YPP สู่การเดินทางถึงรุ่นที่ 2]
โครงการ Pheu Thai YPP หรือ Young Professionals Program เป็นโครงการของพรรคเพื่อไทยที่เปิดตัวไปในสมัยนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และปัจจุบันได้เดินทางมาถึงการเปิดรับสมัครรุ่นที่ 2 เพื่อหาผู้เข้าอบรมวัย 21-40 ปี
พีรวิชญ์ ขันติศุข ผู้อำนวยการ PTP Academy เล่าย้อนให้ฟังว่าหลังจากที่ แพทองธาร เข้ามานั่งในเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เกิดกองงานที่เรียกว่ากองงาน Academy ขึ้น ซึ่งเป็นการรวมตัวคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเติมส่วนที่ขาดหายของพรรรค ไม่ว่าจะเป็นมุมมองวิชาการ ข้อมูลต่างๆ ให้กับ สส. รวมถึงการเตรียมนโยบายสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป
เมื่อมีกองงาน Academy เกิดขึ้นก็มีการพูดคุยกันถึงการเปิดพื้นที่ให้โหวตเตอร์และสมาชิกพรรคที่อยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคเพื่อไทย โดยได้นำเอาโครงการ The Change Maker ของพรรคเพื่อไทยเองที่ยุติไป และเกิด Pain Point คือหลังจบโครงการคนก็กระจัดกระจายกันไปหมด จึงได้ออกแบบกิจกรรมใหม่และเกิดเป็นโครงการ YPP ขึ้น
พีรวิชญ์ ระบุว่าพรรคการเมืองหลายพรรคก็มีโปรแกรมที่คล้ายๆ กับ YPP หลายๆ ที่อาจเรียกว่า Youth Wing หรือปีกเยาวชนของพรรค People Action Party (PAP) ของประเทศสิงคโปร์ ก็มีโครงการที่เรียกว่า YP หรือ Young PAP
“สิ่งที่เราอยากจะทำก็คือทำให้โปรแกรมหรือช่องทางในการที่จะ Engage (สร้างการมีส่วนร่วม) กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ เป็นโครงสร้างที่ฝังอยู่กับโครงสร้างของพรรคการเมืองเลยครับ อันนี้คือจุดสูงสุดที่เราอยากให้ YPP มันเป็น” พีรวิชญ์ กล่าว
[เลือดใหม่เพื่อไทย ดัน YPP สู่คนการเมือง]
การคัดเลือกผู้ร่วมอบรม YPP จะถูกคัดผ่านการนำเสนอประเด็นที่อยากแก้ปัญหาจาก 1 ใน 5 หัวข้อ ได้แก่ 1.เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยว 2.การเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ 3.การศึกษาและแรงงาน 4.คุณภาพชีวิต (สาธารณสุข / ผู้สูงวัย) และ 5.โครงสร้างพื้นฐาน (คมนาคม / การฟื้นฟูเมือง) ซึ่งหากย้อนกลับไปในรุ่นที่ 1 การอบรมกว่า 4 สุดสัปดาห์ติดต่อกัน ก็จะรวมทั้งการมองเชิงวิชาการ กรอบการวางนโยบาย และได้ลงพื้นที่จริงไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พีรวิชญ์ เปิดเผยว่าจากผู้เข้าอบรมในรุ่นแรกของ YPP ก็ได้ผลักดันให้กลายเป็นแคนดิเดตของพรรค ไม่ว่าจะเป็น สส. หรือ สก. (สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร) นอกเหนือจากนั้นก็มีการเชิญให้เข้าไปนั่งในคณะกรรมาธิการร่างกฎหมายในสภาในโควตาสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยด้วย
“ผมอยากให้ YPP มัน Settle (คงที่) จริงๆ แล้วมันกลายเป็นเครื่องมือในการ Inject (ฉีด) เลือดใหม่ คนใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ เข้ามาในพรรคการเมืองตลอดเวลา ซึ่งอันนี้ ผมคิดว่ามัน Contribution (สิ่งที่จะมอบให้) อย่างใหญ่หลวง แต่ว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงตั้งไข่เนาะ มันเป็นช่วงแรก เพิ่งทำมาได้รุ่นเดียว ผมคิดว่าถ้า รุ่น 2 รุ่น 3 เกิดขึ้น มันจะเริ่มทำให้เราเห็น Full Circle ว่าการที่เรามี Track ที่เป็น Youth Wing แบบนี้เกิดขึ้น แล้วก็มีข้อที่เราจะนำพาความคิดใหม่ๆ คนใหม่ๆ เข้ามาในพรรค มัน Stable ยังไง แล้วพรรคมันจะดีขึ้นไปยังไง” พีรวิชญ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การจะทำให้โครงการอยู่ต่อเนื่องนั้น พีรวิชญ์ ระบุว่าพรรคต้องเห็นความสำคัญ และเห็นคุณค่าของเครื่องมือเหล่านี้ ซึ่งนอกจากจะรักษาคุณภาพนักการเมืองแล้ว การที่เลือดเก่าออกเลือดใหม่เข้า คนจาก YPP ก็จะเข้าไปเสริมทัพตรงนี้ และร่วมออกแบบนโยบายที่ชัดเจนขึ้น ซึ่ง ‘Policy’ และ ‘Politician’ นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทย “ขายได้” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ผมคิดว่าพรรคเองก็ Realize (ตระหนัก) ในช่วงหลังว่า เอ๊ะ มันอาจจะมีปัญหาจริงๆ ทุกคนก็เลย Endorse (เห็นด้วยกับ) โปรแกรม YPP ให้มันเกิดขึ้นเพื่อที่จะเป็นข้อต่อสำคัญ…สิ่งที่เราอาจจะขาดอยู่ก็คือไอเดียใหม่ๆ หรือกระบวนการมองโลกวิธีการคิดหรือวิธีการวางแผนการทำงานรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาผสมกับประสบการณ์ที่มันมีอยู่ อันนี้คือ Ideal (อุดมคติ) ที่เราอยากได้เลย เพราะว่าถ้าสมมติมันทำงานด้วยกัน คนมีประสบการณ์จะรู้ว่ากรอบล่าง กรอบบน กรอบซ้าย กรอบขวา วิ่งได้แค่ไหน แต่ถ้าเราสามารถพลิกหมุนกรอบจัดระบบมันใหม่ด้วยการวิธีคิดแบบใหม่ที่มันเป็นของ Outsider (คนนอก) ที่ยังไม่เคยอยู่ในพรรคเข้ามา มันน่าจะทำให้สิ่งทั้งหมดเนี่ยมันเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้วก็ชัดเจนขึ้น อันเนี้ยครับผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญของ YPP ที่เป็นข้อต่อระหว่าง Generation ในพรรคเลยด้วยซ้ำ” พีรวิชญ์ กล่าวทิ้งท้าย
หมายเหตุ : โครงการเพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่เข้าร่วมพรรคการเมืองนั้นเกิดขึ้นในหลายพรรคการเมือง โดยสำนักข่าว TODAY จะทยอยสัมภาษณ์ ‘คนการเมือง’ จากหลากหลายพรรค ติดตามได้ในรายการ HEADLINE ขีดเส้นใต้ประเด็นใหญ่










