
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ประเด็นคือ – ผู้ว่าการการยางฯ ชี้แจง เร่งแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ใช้กลไกบริษัทร่วมทุนยางพาราไทย เข้าซื้อยางใน 6 ตลาดหลักในราคาสูงเพื่อชี้นำตลาด แต่ยอมรับช่วงนี้ผลผลิตออกมามาก มีส่วนกดราคาให้
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ชี้แจงสถานการณ์ราคายางพารา ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ราคายางในประเทศปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับราคายางในตลาดล่วงหน้า ทั้ง 3 ตลาดของต่างประเทศ คือ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ไซคอม ที่ปรับตัวลดลงทุกตลาด

โดยราคายางแผ่นรมควัน มีดังนี้
- สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 52.07 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลง ร้อยละ 5.55
- ราคาเฉลี่ยตลาดโตเกียว อยู่ที่ 58.94 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลง ร้อยละ 8.69
- ตลาดเซี่ยงไฮ้ อยู่ที่ 66.63 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลง ร้อยละ 13.17
- ตลาดไซคอม อยู่ที่ 58.12 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลง ร้อยละ 7.61
ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า ในช่วงเดือนนี้ยางพาราในประเทศที่มีปริมาณยางมากขึ้น เพราะหลายพื้นที่มีฝนทิ้งช่วง ซึ่งมีส่วนกดดันราคา โดยราคารับซื้อยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ หน้าโรงงานของผู้ประกอบการ เฉลี่ยอยู่ที่ 48.00 – 48.50 บาทต่อกิโลกรัม จึงมีแนวทางดำเนินการดังนี้
- กยท. และ บริษัทร่วมทุนยางพาราไทย ได้พยายามแก้ไขด้วยการเข้าไปซื้อในราคาสูงขึ้น เพื่อสร้างราคาอ้างอิงสำหรับการซื้อขายนอกตลาด
- ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในทุกพื้นที่เพื่อเป็นสายตรวจยางพารา เจรจากับผู้ประกอบการ
- เร่งผลักดันให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเข้ามาเป็นเครือข่ายตลาดกลางยางพารา เพื่อจะได้ซื้อขายผลผลิตในราคาเดียวกันกับราคาตลาดกลาง

การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนยางพาราไทย
ผู้ถือหุ้น คือ 5 บริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่ และ กยท. ซึ่งเป็นกลไกความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ในการแก้ไขเสถียรภาพราคา ซึ่งนำมาใช้ครั้งแรกในยุคนี้ ได้มีการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป้าหมายในเรื่องการรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยวิธีการเข้าซื้อยางในราคาชี้นำ ณ ตลาดกลางยางพาราการยางแห่งประเทศ ทั้ง 6 ตลาดหมุนเวียนสับเปลี่ยนกัน เพื่อให้เกิดราคาอ้างอิงที่ดีขึ้น โดยที่ประชุมของบริษัทร่วมทุนฯครั้งล่าสุดได้มีมติให้บริษัทผู้ถือหุ้น ดำเนินการขนย้ายยางออกจากตลาดโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีบริษัทผู้ถือหุ้นรับซื้อไปแล้วบางส่วน และบางส่วนได้ดำเนินการอัดก้อนเก็บไว้ ณ โกดังของบริษัทผู้ถือหุ้น
ขอบคุณภาพ การยางแห่งประเทศไทย / Thai Rubber Portal









