
ยากที่จะปฏิเสธถึงสาเหตที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางมาเที่ยวไทยลดลง บ้างก็ว่าลดลงมาตั้งเเต่เรือล่มภูเก็ต มีเหตุทะเลาะกับเจ้าพนักงานที่สนามบิน ซึ่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับสภาพอัตราการขยายตัวนักท่องเที่ยวจีนในไทย อาจไม่คึกคักมากเหมือนในอดีต เพราะพฤติกรรมคนจีนเปลี่ยนไป จากแบบกรุ๊ปทัวร์เป็นเดินทางมาเอง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานยอดนักท่องเที่ยวจีน พบว่ามีจำนวนลดลง เดือนกันยายนยังคงติดลบ ร้อยละ 15 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศสะสมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 8,300,000 คน
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง กระทบผู้ประกอบการบางพื้นที่และบางกลุ่ม แต่ไม่กระทบยอดนักท่องเที่ยว และรายได้ทั้งปีที่คาดว่าจะเเตะ 3 ล้านล้านบาท
ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอสเอ็มอี หรือ ใช้มาตรการประเภท ลดแลกแจกแถม ซึ่งเป็นยาแรงเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวกลุ่มชาวจีน
หากดูจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนขณะนี้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อก่อนนิยมเดินทางมากับบริษัททัวร์ เเต่ตอนนี้เป็นการเดินทางมาเองพร้อมครอบครัว ซึ่งผู้ประกอบการควรปรับตัวตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป พร้อมยอมรับว่า ยอดนักท่องเที่ยวจีน ที่จะเดินทางมาไทย อาจไม่ขยายตัวมากๆ เหมือนที่ผ่านมาแล้ว

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
“อะไรที่มันมีขึ้น มันก็มีลงได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเพิกเฉยไม่ดูแลผู้ประกอบการไทยนะครับ การใช้เงินภาษีอากรของประเทศมันเป็นเงินของส่วนรวมนะครับ ต้องดูว่าการไปเยียวยาผู้ประกอบการเฉพาะกลุ่ม มันจะเหมาะสมรึเปล่า ผมคิดว่าเราต้องดูเชิงภาพรวมไม่ให้มีผลกระทบมากเกินไป แต่จะให้เข้าไปช่วยเฉพาะโรงแรม 3 ดาวในภูเก็ต ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลจะเข้าไปทำ ก็ต้องดูกันไปตามความเหมาะสมนะครับ” พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว

ส่วนแนวข้อเสนอการยกเว้น หรือ ปรับเงื่อนไข ค่าธรรมเนียมวีซ่า จากแบบครั้งเดียว หรือ Single Entry Visa เป็น Double Entry Visa ซึ่งสามารถเข้าไทยได้ 2 ครั้ง ในรอบ 6 เดือนนั้น ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะอาจเป็นการใช้เงินภาษีคนไทยไปอุดหนุนคนจีน
การพึ่งพาตลาดใด ตลาดหนึ่งมากไปอาจจะเสี่ยง กระทรวงฯ จึงตั้งเป้าหมาย ปฏิรูปโครงสร้างการท่องเที่ยวทั้งระบบ ในระยะ 10 ปี เพื่อกระจายความเสี่ยงตลาดท่องเที่ยว และยกเครื่องมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งจะจัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 18 ต.ค.61 นี้









