ข้าวหอมมะลิไทย ขาดตลาด ทำราคาพุ่งตันละ 17,000 บาท

ข้าวหอมมะลิไทย ขาดตลาด ทำราคาพุ่งตันละ 17,000 บาท

ภาพจาก เว็บ http://lerdsud-funnys.blogspot.com

ประเด็นคือ – ผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิ ออกมาสู่ตลาดลดลง ทำขาดตลาด แต่ส่งผลดีราคาพุ่งสูง กว่า 17,000 บาทต่อตัน

กรมการข้าว ร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทย สำรวจผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิ ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง พบข้อมูลว่า ปีนี้มีผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิ ออกมาสู่ตลาดประมาณ 7.1 ล้านตัน ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยประมาณการ ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.9 ล้านตัน

ทำให้ตลาดตื่นตัว และมีการปรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมเมื่อปีที่แล้ว เกษตรกรเคยขายได้ราคาตันละ ไม่ถึง 10,000 บาท ขณะนี้ราคาพุ่งสูงขึ้นตันละกว่า 17,000 บาท

นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.นครราชสีมา และเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า สถานการณ์นี้ส่งผลต่อการส่งออก และปริมาณข้าวที่ต้องการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งโรงสีที่ผลิตข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้โรงสีบางแห่ง ปรับไปสีข้าวเหนียวแทนบ้างแล้ว

สำหรับภาพรวมราคาข้าวปรับขึ้นทั้งตลาด โดยเฉพาะราคาข้าวหอมไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 6 ปี จากความต้องการในต่างประเทศ ในปีการผลิต 2560/2561 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูงถึง 16,500-17,500 บาทต่อตัน สูงที่สุดนับตั้งเเต่ปีการผลิต 2554/2555 ที่ 15,365 บาทต่อตัน

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ความต้องการข้าวหอมมะลิที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ลดลง 1-2 ล้านตัน จากปัญหาน้ำท่วมและสภาพอากาศ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับตัวสูง ซึ่งเป็นผลดีกับเกษตรกร ขณะที่ราคาข้าวสารหอมมะลิ ปรับขึ้นร้อยละ 30 มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 33-34 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 21-22 บาท โดยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทยอยปรับราคาแล้ว.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าวหอมมะลิไทย 105 คว้าแชมป์ ข้าวรสชาติดีที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ข้าวหอมมะลิไทย ขาดตลาด ทำราคาพุ่งตันละ 17,000 บาท