
ภาพจากเพจ RD กล้าปาล์มพันธุ์ดี
เกษตรกรชาวสวนปาล์ม เรียกร้องให้รัฐแก้ไขปัญหาราคาปาล์มที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เมื่อวานนี้ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 4 มาตรการ เพื่อแก้ปัญหานี้แล้ว มาตรการที่ออกมาคาดว่าจะทำให้ราคาปาล์มดีขึ้น โดยเป็นการแก้ทั้งระบบและ ครม.ประเมินว่าราคาปาล์ม น่าจะแตะ 3.10 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมตั้งอนุ กก.ติดตามแก้ปัญหาระยะยาว นายกฯ ขีดเส้น ก.เกษตรฯ เร่งแก้ราคายางใน 7 วัน
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.61 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานต่อที่ประชุม กรณีการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ซึ่งปกติแล้วการเก็บสต็อกปาล์มจะต้องอยู่ที่ 300,000 ตัน แต่ปัจจุบันมีในสต็อก 450,000 แสนตัน โดยมี 4 ขั้นตอนหลักในการแก้ไขปัญหา ได้แก่
- การปรับการเก็บสต็อกปาล์มน้ำมัน โดยประสานงานกับกระทรวงพลังงานให้นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงงานไฟฟ้าที่มีศักยภาพ ที่ใช้ปาล์มมากถึง 160,000 ตัน จะเป็นการลดสต็อกปาล์มภายในประเทศ
- ขยายเวลาส่งออกปาล์ม ยาวไปอีก 6 เดือน จากที่สิ้นสุดในเดือน พ.ย.61 ให้ไปสิ้นสุดในเดือน พ.ค.62
- ในการผลิตน้ำมันดีเซลจะเพิ่มอัตราส่วนปาล์มจาก 6.5% เป็น 7% ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงานผลักดันให้รถบรรทุกใช้น้ำมันดีเซล B20 มากยิ่งขึ้น จากที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีการใช้น้ำมันชนิดนี้ 10 ล้านลิตรต่อปี แต่ในทางปฏิบัติจริงมีการใช้เพียง 4 ล้านลิตรเท่านั้น
- พยายามเร่งการเจรจาส่งออก ปาล์มไปยังประเทศสเปนให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้
จากนโยบายนี้คาดว่าในเร็วๆ นี้ ราคาปาล์มจะปรับขึ้นถึง 3.10 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมราคาอยู่ที่ 2.60 บาทต่อกิโลกรัม กก. ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ได้มีการขอตั้งคณะอนุกรรมการบริหารติดตามการแก้ไขปัญหาปาล์ม ซึ่งมีนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ก่อนส่งเรื่องกลับมายังที่ประชุม ครม.ภายใน 7 วัน เพื่อผลักดันให้ราคายางสูงขึ้น พร้อมกับเร่งประชาสัมพันธ์เกษตรกรที่ปลูกยางให้รับทราบ ย้ำการช่วยเหลือไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ปธ.จนท.บริหารและกก.ผจก.ใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ป
ถ้าจะไล่ดูความเป็นไปได้ของมาตรการที่ ครม.อนุมัติ อย่างการใช้ผสมในน้ำมันดีเซล เป็นทั้ง B7 เเละ B20 รัฐสนับสนุนให้มีการใช้ในรถบรรทุก ล่าสุดมีการ อุดหนุนราคา B20 ของรัฐบาลในอัตรา 5 บาทต่อลิตร ทำให้นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ปธ.จนท.บริหารและกก.ผจก.ใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ป เชื่อว่า จะมีผู้ประกอบการรถบรรทุกเข้าร่วมโครงการมากขึ้น
“B20 ตอนนี้ยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้ประกอบการลงทะเบียนกับเราเกือบ 50 ราย และยอดขาย B20 วันนี้ มีประมาณสัก 3,000,000 ลิตรต่อเดือน และมีเกษตรกรอยากจะทำเพิ่ม เพราะอยู่ในกระบวนการที่นำผู้ที่ต้องการใช้จดทะเบียนกับกรมธุรกิจพลังงาน หลังจากนั้นก็จัดหาเพิ่ม แนวโน้มก็ดูดีครับ” ผู้บริหาร บมจ.บางจาก คอร์ป กล่าว

นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่
ส่วนการใช้ในโรงไฟฟ้า ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่เกษตรกรเสนอไป ซึ่งถ้านำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ที่มีอุปกรณ์พร้อม เกษตรกรเชื่อว่ามาตรการนี้จะเห็นผลเร็วขึ้น
“มีความพร้อมทั้งหมดเลยนะครับ เอาเข้าวันนี้พรุ่งนี้ผลิตได้เลย เพราะทางจังหวัดกระบี่ได้ของบประมาณเพื่อไปปรับปรุงเครื่องประมาณ 50 กว่าล้าน พร้อมที่จะใช้งานแต่ยังไม่ได้ใช้งานปิดอยู่” ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่
เเม้มาตรการที่รัฐออกมาล่าสุด จะยังไม่สามารถรับรองได้ว่าราคาปาล์มจะสูงขึ้นตามเป้าหมายที่ 3.10 บาท ตามที่รัฐประเมินไว้ได้หรือไม่ เเต่ฝั่งของเกษตรกรบอกว่าราคาที่รัฐจะช่วยได้ ยังต่ำกว่าต้นทุนของพวกเขา ที่อยู่ กิโลกรัมละ 3.50 บาท เเน่นอนว่าพวกเขายังพร้อมรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้

ภาพจากเพจ RD กล้าปาล์มพันธุ์ดี









