ภาพ : สำนักนายกรัฐมนตรี
ประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายกับ คสช. ไร้พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มอารมณ์ดีย้ำทุกอย่างเรียบร้อยดี “วิษณุ” แจงโรดแมปปลดล็อกปลายปี ปล่อยหาเสียงเต็มรูปแบบหลัง 2 ม.ค. 62 รวม 52 วันก่อนเลือกตั้ง
วันที่ 7 ธ.ค. ภายหลังการประชุมร่วมกันของแม่น้ำ 5 สาย นำโดย คสช.กับตัวแทนพรรคการเมือง ที่สโมสรทหารบก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เดินจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยยกนิ้วโป้งและตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี” แต่ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 หรือไม่ โดยหันมาตอบว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้แจ้ง
พรรคพลังประชารัฐ (ภาพ : สำนักนายกรัฐมนตรี)
สำหรับการประชุม “จัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป ” มี 75 พรรคการเมืองเข้าร่วม โดยไม่มีพรรคการเมืองใหญ่ เช่น เพื่อไทย,ประชาธิปัตย์ และไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
รายงานข่าวแจ้งว่า พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวกับผู้ร่วมประชุมตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติมาร่วมประชุมในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการเดินหน้ากับสู่การเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย หลายพรรคที่ยินดีจะมาร่วมวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความตั้งใจที่จะช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนบางพรรคการเมืองที่ประกาศว่าไม่เข้าร่วมประชุม ก็ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ว่าเข้าใจอะไรถ่องแท้แล้วถึงไม่มา หรือตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ร่วมมือกับทุกภาคส่วน
วิษณุ เครืองาม (ภาพ : สำนักนายกรัฐมนตรี)
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงโรดแมปทางการเมืองก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยมีช่วงเวลาที่สำคัญคือ
– เดือน ธ.ค.2561 ก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จะมีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง โดยยกเลิกคำสั่งและประกาศ คสช.ที่เกี่ยวข้อง 9 ฉบับ
– เดือน ม.ค.2562 เมื่อพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส.มีผล จให้เริ่มหาเสียงได้ ขณะที่ กกต.จะเปิดรับสมัคร ส.ส. และพรรคจะต้องแจ้งชื่อผู้จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่าง 14-18 ม.ค. 2562
– เดือน ก.พ. 2562 จะมีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรและเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนวันเลือกตั้งจริง 24 ก.พ.62
– เดือน เม.ย.2562 จะเป็นช่วงสุดท้ายที่ กกต.จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง (60 วันหลังการเลือกตั้ง)
– เดือน พ.ค. 2562 คาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่
