สลน.เทงบฯ 12 ล้าน เปิดเพจ “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก”

สลน.เทงบฯ 12 ล้าน เปิดเพจ “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก”

สลน. เปิดตัวเพจ “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก” เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล ภารกิจด้านต่างประเทศ จากก่อนหน้านี้มีเพจไทยคู่ฟ้า และ สายตรงไทยนิยม เล็งทำไลน์ ออฟฟิเชียล เพิ่ม

วันที่ 13 พ.ค. 2561 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดทำเพจเฟซบุ๊ก “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก” ว่าเป็นเพจใหม่เพื่อเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ภารกิจของรัฐบาลในด้านการต่างประเทศ มีรูปแบบการนำเสนอที่ทำให้เข้าใจง่าย และชวนให้คนรุ่นใหม่มาติดตามงานของรัฐบาล ประเทศไทยยังคงเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชนประชาคมโลก และจะยังคงกระชับความร่วมมือกับนานาชาติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเดินทางไปมาหาสู่ในทุกระดับ

ทั้งนี้ เพื่อประชาชนชาวไทย ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งอนุภูมิภาค และภูมิภาคนี้ ได้รับประโยชน์ร่วมกัน ตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “เราจะเข้มแข็งไปด้วยกัน (Stronger Together)” รวมถึงถือเป็นการสื่อสาร ให้ประชาชนทราบถึงประเด็นที่อาจดูเหมือนไกลตัว แต่ที่จริงทุกคนล้วนอยู่ในห่วงโซ่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับเพจเฟซบุ๊ก  “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก” สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ทำเนียบรัฐบาล ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเริ่มเผยแพร่คลิปวีดีโอการ์ตูนแอนิเมชั่นอินโฟกราฟฟิก ที่เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของไทย ซึ่งได้รับจากการสร้างความสัมพันธ์กับนานาประเทศ รวมถึงผู้ดูแลเพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความว่า เราเป็นเพจกึ่ง Documentary ที่จะเล่าสถานการณ์ของประเทศไทยในเวทีโลกแบบง่ายๆ ถ้าใครเห็นแตกต่าง อยากแย้ง แบ่งปันข้อมูลกับเรา เชิญได้ เราขอแค่งดคำไม่สุภาพ และมีมารยาทเท่านั้น

ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ไทยคู่ฟ้า” และ “สายตรงไทยนิยม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลของ สลน. ในวงเงินงบประมาณราว 12 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ 3 โครงการ คือ

     1.โครงการจ้างทำไลน์ ออฟฟิเชียล แอคเคานท์ เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเชิงรุก ได้รับจัดสรรงบประมาณ 7.3 ล้านบาท
     2.โครงการประชาสัมพันธ์ “ประเทศไทยเดินหน้าทันโลก” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก วงเงินงบประมาณ 8 แสนบาท
     3.โครงการจ้างทำวารสาร “ไทยคู่ฟ้า” พิมพ์ 4 สี 40 หน้า สำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของโครงการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 4 ล้านบาท

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง