
สมพร กมลพรสิน ผู้จัดการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
เครื่องในหมูนำเข้ากำลังเป็นปัญหากระทบกับผู้เลี้ยงหมูในประเทศ และกำลังเป็นประเด็นที่เหมือนจะไปซ้ำเติมปัญหาราคาหมูที่ตกต่ำอยู่ในเวลานี้ด้วย ทางสมาคมผู้เลี้ยงหมูยอมรับว่า นี่เป็นอีกปัญหาที่ต้องเร่งเเก้ไม่นับรวมหมูล้นตลาดที่ทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับตัวลดลงมากกว่าต้นทุน
คุณสมพร กมลพรสิน ผู้จัดการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยอมรับว่า ต้องเผชิญกับภาวะราคาหมูตกต่ำมานาน 8-9 เดือนแล้ว ขายขาดทุนเฉลี่ย 600 – 1,000 บาทต่อตัว คิดจากราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 54-55 บาท
และจากต้นทุนทั้งหมด 60-64 บาทกิโลกรัม และยังต้องเจอปัญหาเครื่องในหมูในประเทศขายไม่ได้ เพราะเครื่องในหมูที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เยอรมัน เกาหลี มีราคาถูกกว่า
โดยปีที่แล้ว (2560) ไทยนำเข้าเครื่องในหมู 16,000 ตัน จากปริมาณทั้งหมด 80,000 ตัน จึงเชื่อว่าหากภาครัฐควบคุมการนำเข้าเครื่องในหมู โดยให้เอกชน ขายเครื่องในหมูในประเทศก่อน หากไม่เพียงพอในการบริโภคจึงนำเข้ามาเพิ่มเติม จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ราคาหมูหน้าฟาร์มสูงขึ้นด้วย

จากปัญหานี้ไม่ใช่เเค่หน้าฟาร์มที่ราคาตก จากประเด็นปัญหาการนำเข้าเครื่องใน ทำให้พ่อค้าที่ขายอยู่ในตลาดสด บ่นไปตามๆ กันเพราะราคาเครื่องในในห้างค้าปลีก ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ล็อตใหญ่ ๆ ราคาถูกกว่า เเบบนี้กระทบเต็มๆ เเข่งไม่ได้ ขายได้น้อยลง เช่น ตับหมูในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 120 -130 บาทต่อกิโลกรัม ไส้ 130 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับห้างค้าปลีกจะขายถูกกว่าประมาณเกือบครึ่ง

ในการประชุมแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูตกต่ำเมื่อวัน (15มิ.ย.61) ก็ถือว่าคืบหน้า เพราะ ที่ประชุมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีก ค้าส่ง ลดปริมาณการนำเข้าเครื่องในหมูจากต่างประเทศ และขอให้โรงฆ่า รับซื้อหมูในราคา กิโลกรัมละ 60-62 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนเกษตรกร
ขณะเดียวกัน นสพ.จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ขอให้เกษตรกร ที่มีหมูแม่พันธุ์ ตั้งแต่ 5 พันตัวขึ้น ตัดตอนแม่พันธุ์ เพื่อลดปริมาณลูกหมูออกสู่ตลาด คาดว่า มาตรการเบื้องต้นนี้ จะกำกับในระยะ 4 เดือน เพื่อประเมินสถานการณ์
โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ก็เห็นด้วยกับเเนวทางเเก้ปัญหา ขณะนี้ผู้เลี้ยงสุกรปิดกิจการไปแล้วกว่า 5 หมื่นราย 30% จากจำนวนผู้เลี้ยงสุกรทั้งหมด 190,000 ราย เพราะประสบปัญหาภาวะขาดทุน ราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งถ้าทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินตามมาตรการจริง ๆ 4 เดือน เพียงพอที่จะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น









