วันที่ 23 มิ.ย. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ไขมาตรา 256 และ 272 ในการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ..) พ.ศ. … โดยมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันนั้น ได้กำหนดขั้นตอนเงื่อนไข ไว้ซับซ้อนมากมาย จนเกือบจะเรียกได้ว่าทำให้แก้ไม่ได้เลยและสุดท้ายอาจจะนำไปเป็นเงื่อนไขการฉีกรัฐธรรมนูญต่อไปได้ในอนาคต
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยพูดว่าอย่างน้อยถ้าต้องเลือกสักหนึ่งมาตราในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมจะเลือกมาตรา 256 เพราะมาตรานี้ คือกุญแจดอกใหญ่ ที่คล้องประตูประชาธิปไตยไว้ไม่ให้เปิดออก การแก้มาตรา 256 จะเป็นการสะเดาะกุญแจเพื่อให้เปิดประตูไปสู่ประชาธิปไตยในอนาคตได้ จึงเป็นเรื่องจำเป็น และเป็นหนึ่งใน 6 ฉบับที่พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาได้เสนอต่อประธานและที่ประชุม”
นายจุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องการแก้ไขระบบการเลือกตั้ง จากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ เหตุผลมิใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใด แต่เพื่อให้ประชาชนได้มีเสรีภาพในการเลือก ส.ส. มากขึ้น การมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะเป็นการแยกเลือกคน แยกเลือกพรรคได้ ไม่ต้องถูกบังคับเหมือนระบบใบเดียวที่เอาคนกับพรรคมามัดรวมกันเหมือนข้าวต้มมัด ทำให้ประชาชนมีเสรีภาพในการเลือกผู้แทนและเลือกพรรคการเมืองที่ตนเองชอบได้ ที่สำคัญระบบบัตรเลือกตั้งสองใบจะทำให้ประชาธิปไตยในรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเข้มแข็งขึ้น เพราะพรรคการเมืองจะเข้มแข็งขึ้น การเมืองจะมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นเบี้ยหัวแตกเหมือนระบบบัตรใบเดียวที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นี่คือเหตุสำคัญว่าทำไมต้องแก้ไขระบบบัตรใบเดียวเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
อย่างไรก็ตามอีกประเด็นของการแก้ไขมาตรา 272 ซึ่งเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง ว่าควรจะปิดสวิตช์ ส.ว. หรือไม่ จุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ต่อเรื่องนี้คือยังเห็นว่า ส.ว. ยังมีความจำเป็น และประเทศไทยควรเป็นระบบรัฐสภาแบบ 2 สภา ไม่ใช่สภาเดียว แต่เนื่องจาก ส.ว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงควรมีอำนาจจำกัดเฉพาะการทำหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายและการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น ไม่ควรมีอำนาจเลยไปถึงการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีแทนประชาชน และการให้อำนาจ ส.ว. ลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการให้อำนาจชั่วคราว ที่ระบุไว้ในบทเฉพาะกาลเป็นเวลา 5 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะต้องกลับเข้าสู่วิถีประชาธิปไตยปกติที่เป็นหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้











