ประเด็นคือ – เพื่อจูงใจให้แรงงานไทย หันมาทำงานในกิจการประมงและการแปรรูปสัตว์น้ำ กระทรวงแรงงานได้หารือร่วมกับสมาคมและผู้ประกอบการประมง เบื้องต้น อาจปรับวิธีจ้างงานเป็นแบบจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำ 12,000 บาท แทนการจ้างเป็นรายวันแบบเดิม รวมถึงอาจพิจารณาให้มีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุและประกันสังคมด้วย
วันที่ 8 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมา ใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาวและพม่าในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำได้หมดอายุลง ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องจัดหาแรงงานมาทดแทน กระทรวงแรงงาน จึงได้มีการหารือกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการประมง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการปรับปรุงสภาพการจ้างและการทำงาน พร้อมจัดสวัสดิการทุกรูปแบบให้กับแรงงานในภาคประมง เพื่อจูงใจให้แรงงานไทยหันมาทำงานในกิจการประมงทะเล
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า เบื้องต้น มีข้อเสนอจะจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือนขั้นต่ำเดือนละ 12,000 บาท จ่ายผ่านธนาคาร พร้อมกับจัดสวัสดิการด้านที่พัก อาหาร การรักษาพยาบาล ประกันสุขภาพ และประกันสังคม รวมทั้งประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุให้กับแรงงานภาคประมง
สำหรับคนงานที่มีประสบการณ์ จะได้ค่าจ้างมากขึ้นตามข้อตกลงในแต่ละราย โดยจะต้องมีการทำสัญญาจ้างที่กำหนดอัตราค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแรงงาน ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อรายละเอียด หรือสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694
สำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคประมง ภายในเดือนพฤศจิกายน ทางการไทยจะไปเจรจาการนำเข้าแรงงานกับทางการเมียนมา แบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งแรงงานข้ามชาติ ก็จะได้รับค่าจ้างและสวัสดิการเช่นเดียวกันกับแรงงานไทยด้วย
