
อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ตามข้อกฎหมายหากถูกยุบพรรคกรรมการบริหารพรรคนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ไม่ใช่แค่ 10 ปี เพราะไปผูกโยงกับคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ
วันที่ 13 ก.พ. นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงกรณีพรรคการเมืองใดถูกยุบจะมีผลทางกฎหมายต่อกรรมการบริหารพรรคอย่างไรว่า ตามข้อกฎหมายแล้วหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดจะทำให้กรรมการบริหารพรรคนั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วย ซึ่งจะไม่สามารถรับสมัครเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ได้อีก

เนื่องจากใน มาตรา 92 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง วรรคท้ายระบุว่า “เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น”
จะเห็นว่ากฎหมายกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญตัด “สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง” ของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งสิทธิ์ในการสมัครรับเลือกตั้งไม่มีการกำหนดอายุไว้ ต่างจาก “สิทธิ์เลือกตั้ง” ที่กำหนดจำนวนปีไว้

ในเรื่องนี้หากดูใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 94 วรรค 2 ที่เขียนว่า “ห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดํารงตําแหน่งกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบและถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเพราะเหตุดังกล่าว ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ทั้งนี้ ภายในกําหนดสิบปีนับแต่วันที่พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ”
หากดูแค่นี้อาจจะเกิดความสับสนเรื่องของระยะเวลาในการถูกตัดสิทธิ์ แต่ในทางความเป็นจริงการยื่นจัดตั้งพรรคการเมืองหรือไปยื่นเป็นกรรมการบริหารพรรคจะไปสัมพันธ์กับการมี “สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง” ทั้งสิ้น

ซึ่งสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งกำหนดอยู่ใน รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 98 ที่กำหนดผู้มีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ใน (5) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง
ถ้าดูในส่วนนี้จะไม่มีเรื่องระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นลักษณะต้องห้ามถาวร ถ้าเมื่อไรถูกตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งจะเป็นข้อห้ามในการดำเนินการอื่นๆ ด้วย
นายอุดม กล่าวว่า การเขียนกฎหมายแบบนี้ต่างไปจากเดิม เพราะมองว่าผู้ที่จะถูกตัดสิทธิ์ในการรับสมัครเลือกตั้ง ต้องมีพฤติกรรมรุนแรง ไม่ควรจะอยู่ร่วมในการทำกิจกรรมทางการเมืองโดยเฉพาะการมาเป็นผู้นำของสังคมการเมือง เรื่องการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นสิทธิพลเมือง แต่สิทธิ์ในการสมัครรับเลือกตั้งถือเป็นผู้แทนของคนอื่นในการทำหน้าที่ ถ้าถูกตัดคือมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ
สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ
1.ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ
2.นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค
3.นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค
4.นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค
5.นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรค
6.นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค
7.นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค
8.นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค
9.นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค
10.นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค
11.นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
12.นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค
13.รศ. ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค (แจ้งว่าได้ยื่นลาออกก่อนประชุมพิจารณาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค)
14.นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค









