พรรครวมพลังประชาชาติไทย เลือก “หม่อมเต่า” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นัั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ระบุ “จุดยืน” ถ้าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องมาลงปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค
วันที่ 5 ส.ค. พรรครวมพลังประชาชาติไทย (พรรครปช.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น 1 ในแกนนำจัดตั้ง ได้มีมติเลือกหัวหน้าพรรค ปรากฏว่า คณะกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทยชุดแรก มีมติเลือก หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หรือ หม่อมเต่า เป็นหัวหน้าพรรค ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 331 คะแนน ขณะที่ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมชิงตำแหน่งด้วย แต่นายอเนก ขอสละสิทธิ์ เนื่องจากเห็นว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนเหมาะสม
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเลือก นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง อดีตอัยการ เป็นเลขาธิการพรรค พร้อมทั้งเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ โดยนายสุเทพ ไม่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในพรรค
ทั้งนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล และคณะผู้บริหารพรรค จะนำผลการประชุมไปยื่นจดทะเบียน ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้เป็นพรรคมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายต่อไป
ม.ร.ว.จัตุมงคล ให้สัมภาษณ์กับคำถามที่ว่า จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหรือไม่ว่า ในจุดนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดยาวเป็นปี แต่ที่ชัดแจ้งคือเลือกตั้งคราวหน้า เกือบจะเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองทุกพรรคถูกบังคับด้วยรัฐธรรมนูญให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 คน ไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรค แต่ก่อน ปาร์ตี้ลิสต์ มีไว้ให้คนดี คนเก่ง แต่พูดไม่เก่ง เที่ยวนี้มีปาร์ตี้ลิสต์นายกรัฐมนตรี ดังนั้นตนคิดว่า การเลือกตั้งส่วนไม่น้อย ประชาชนจะเลือกส.ส. จาก ปาร์ตี้ลิสต์นายกรัฐมนตรี
“ท่านถามถึงท่านประยุทธ์ นายกฯ คนปัจจุบัน ถ้าท่านไม่อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ นายกรัฐมนตรี ผมว่า ยากนะครับที่จะขอ มันก็ยังมีอีกมาตราอีกสองมาตราที่ว่า ไม่รู้จะทำอะไรให้ใช้ขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ผมว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปคงจะต้องอยู่ในปาร์ลิสต์ เพราะว่าถ้าไม่อยู่แล้ว มีนายกฯ ให้เลือก อาจจะ 30-50 คน จาก 10-20 พรรคที่แต่ละพรรคเสนอมา 1-3 คน ถ้าอย่างนั้นแล้วพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกจากประชาชนยังตกลงกันไม่ได้ ผมว่ามันตอบโจทย์ยาก ขึ้นอยู่กับท่านว่า ท่านจะลงมาในปาร์ตี้ลิสต์พรรคหนึ่งพรรคใดหรือไม่” หัวหน้าพรรครปช.ระบุ
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงการประชุมสมัชชาที่จะเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการพรรคจริง เรามาทำหน้าที่ “หัวหน้าพรรคชั่วคราว” ส่วนเรื่อง “นายกรัฐมนตรี” เป็นเรื่องใหญ่ การที่พรรคจะเสนอใครต้องใช้คะแนนเสียงจากที่ประชุมสมัชชา
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล สื่อมวลชนเรียกกันติดปากว่า “หม่อมเต่า” ปัจจุบัน อายุ 74 ปี เริ่มรับราชการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จนกระทั่งดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมบัญชีกลาง, อธิบดีกรมสรรพสามิต, อธิบดีกรมสรรพากร และปลัดกระทรวงการคลัง
เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในปี พ.ศ. 2539 ขณะที่เมื่อปี พ.ศ. 2540 ขณะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง เกิดความขัดแย้งด้านนโยบายการคลังกับรัฐบาลในยุคพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และถูกคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงลาออกจากราชการทันที
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ในรัฐบาลชวน หลีกภัย
ม.ร.ว.จัตุมงคล ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมพ.ศ. 2544 เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ทบทวนนโยบายด้านดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ในปี 2541 ได้ดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำมาหลายปี และเคยเป็นพยานโจทก์ ขึ้นเบิกความในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา เมื่อปี 2551
ขอบคุณภาพ ACT PARTY
