‘เนทันยาฮู’ เจอ ‘ทรัมป์’ ชี้ชะตาดีลหยุดยิงกาซา ไปต่อหรือพอแค่นี้?

‘เนทันยาฮู’ เจอ ‘ทรัมป์’ ชี้ชะตาดีลหยุดยิงกาซา ไปต่อหรือพอแค่นี้?

ในขณะที่การแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสกำลังดำเนินอยู่ยังมีอีกประเด็นน่าสนใจและอาจเกี่ยวข้องกับอนาคตของฉนวนกาซาโดยตรงให้ต้องจับตาคือการเยือนสหรัฐฯของนายเบนจามินเนทันยาฮูนายกรัฐมนตรีอิสราเอลซึ่งเขามีกำหนดการพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯหลายคนรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯที่เพิ่งรับตำแหน่งมาหมาดๆแต่ถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของข้อตกลงหยุดยิงว่าจะได้ไปต่อหรือไม่

 

เนทันยาฮูเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ สำคัญอย่างไร?

การพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกับประธานาธิบดีทรัมป์นอกจากจะเป็นครั้งแรกที่เป็นการหารือกันอย่างเป็นทางการหลังจากที่ทรัมป์เพิ่งรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯเมื่อสองสัปดาห์ก่อน

การพบกันระหว่างสองผู้นำในครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลา ที่มีการคาดการณ์ว่ากำลังจะมีการเจรจาเพื่อเข้าสู่เฟส 2 ของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสพูดกันง่ายๆคือตอนนี้ถูกมองว่าเป็นช่วงที่กำลังเป็นทางแยกระหว่างจะเดินหน้าทำตามข้อตกลงหยุดยิงเพื่อไปสู่ขั้นต่อไปหรือจะกลับมาทำสงครามกันอีกครั้ง

เพราะในข้อตกลงหยุดยิงฉบับล่าสุด ที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามผลักดัน จนเกิดขึ้นในแทบวินาทีสุดท้ายของก่อนหมดวาระ แม้จะมีการประกาศออกมาว่าจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ  แต่ที่มีการกำหนดเงื่อนไขไว้อย่างชัดเจนจริงๆ มีแค่ข้อตกลงเฟสแรก ที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ คือ อิสราเอลจะถอนทหารออกจากเขตที่อยู่อาศัยของพลเรือนในฉนวนกาซา และฮามาสก็ต้องปล่อยตัวประกันชุดแรกจำนวน 33 คนออกมา แลกตัวกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกจับอยู่ในอิสราเอลราว 400 คน พร้อมกับเปิดทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ โดยข้อตกลงเฟสนี้ครอบคลุมระยะเวลา 6 สัปดาห์ เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 .. ส่วนการหยุดยิงเฟส 2 และ เฟส 3 มีการคุยกันไว้ว่า จะมาเจรจากันอีกทีในระหว่างที่เฟสแรกดำเนินอยู่ ซึ่งก็คือตอนนี้

 

กำหนดชะตาดีลหยุดยิง ไปต่อหรือพอแค่นี้

ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อครบกำหนดการหยุดยิงเฟสแรกแล้ว จะเข้าสู่เฟส 2 คือ ฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ยังอยู่ในฉนวนกาซาออกมาแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์อีกชุดหนึ่ง และอิสราเอลจะถอนทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา เพื่อปูทางไปสู่เฟส 3 ซึ่งฮามาสจะส่งคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิตทั้งหมดก่อนจะเข้าสู่การดำเนินการเพื่อฟื้นฟูฉนวนกาซาต่อไป

ในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกดำเนินมาได้ครึ่งทาง ในเวลานี้ดูเหมือนว่า การเจรจาข้อตกลงเฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 ยังมองไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างซ้ำร้ายกว่านั้นยังเริ่มมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าการเจรจาครั้งต่อๆไปอาจถึงคราวสะดุดแม้อดีตประธานาธิบดีโจไบเดนจะยืนยันก่อนลงจากตำแหน่งว่าข้อตกลงหยุดยิงสามารถดำเนินต่อไปได้จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายคือการฟื้นฟูฉนวนกาซาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

แต่คนสำคัญที่มีอิทธิพลในการกำหนดอนาคตของข้อตกลงหยุดยิงในวันนี้ ก็คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้นำอิสราเอลต้องเดินทางเยือนสหรัฐฯ ตอนนี้ เพื่อไปพูดคุยเกี่ยวกับจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนจะมีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงเฟส 2 กับฮามาส

ถ้าถามถึงจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ ค่อนข้างจะชัดเจนว่ามีความแตกต่างจากอดีตประธานาธิบดีไบเดนอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทั้งสองคนจะแสดงออกว่าต้องการให้สงครามในฉนวนกาซายุติ และต่างก็สนับสนุนอิสราเอลเหมือนๆ กัน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ดูจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวมากกว่า อย่างที่เห็นชัดๆ คือข้อเสนอที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งออกมาพูดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ให้จอร์แดนกับอียิปต์รับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาเข้าไปอยู่ในประเทศ จนชาติอาหรับพากันออกมาคัดค้าน และวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นความพยายามเพื่อกวาดล้างชาติพันธุ์ปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา

 

เป้าหมาย อิสราเอลฮามาส ยังเป็นตัวกำหนด

นอกจากจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ถูกมองว่าจะมีอิทธิพลต่อการได้ไปต่อหรือไม่ได้ไปต่อของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นช่องโหว่สำคัญซึ่งหลายฝ่ายกำลังกังวลกันว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อตกลงฉบับนี้ต้องชะงักและทั้งสองฝ่ายจะกลับมาทำสงครามกันอีกครั้งคือการที่อิสราเอลไม่ได้รับปากหรือลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่กลับมาโจมตีในฉนวนกาซาอีกหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกจบลงไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่วันแรกที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ก็ออกมาประกาศอย่างชัดเจนด้วยตัวเองเลยว่า นี่เป็นเพียงข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และอิสราเอลก็มีสิทธิ์จะกลับมาสู้ต่อหากจำเป็น

ซึ่งหากพิจารณาจากเป้าหมายที่อิสราเอลย้ำมาตลอดคือการกวาดล้างฮามาสให้หมดไปจากฉนวนกาซาเท่ากับในเวลานี้อิสราเอลยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลอาจไม่ยอมรับข้อตกลงที่ระบุให้พวกเขาต้องถอนทหารออกจากฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์

ขณะที่ฝั่งของฮามาสก็ยังคงยืนยันว่า พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยตัวประกันออกมาเพิ่มเติม หากว่าอิสราเอลไม่ถอนทหารออกจากฉนวนกาซาทั้งหมดตามที่ตกลงกัน เรื่องนี้จึงยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่อาจทำให้ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาต้องสะดุดลงอีกครั้ง

 

อนาคตฉนวนกาซาจะเป็นอย่างไรต่อไป

ถึงเวลานี้คงต้องบอกว่ายังไม่หมดหวังที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลจะดำเนินต่อไปแต่สิ่งที่จะต้องจับตาต่อไปก็คือความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์และนายกรัฐมนตรีเบนจามินเนทันยาฮู

โดยเฉพาะเมื่อมองไปยังจุดยืนของพวกเขา สำนักข่าว Channel News Asia วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป มีโอกาสสูงที่อิสราเอลจะตัดสินใจกลับมาใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อกวาดล้างฮามาส และผนวกฉนวนดินแดนของกาซาบางส่วน หรืออาจจะทั้งหมดมาเป็นของอิสราเอลตามคำแนะนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามนี่ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ส่วนคำตอบจริงๆอาจจะได้เห็นเค้าโครงลางๆจากโต๊ะประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯและอิสราเอลที่กำลังจะเกิดขึ้นในทำเนียบขาวอีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง