
ร้านประชารัฐพะเยาส่อวูบ ห้างท้องถิ่นหั่นราคาต่ำกว่า 30-40 เปอร์เซ็นต์ แถมได้เครื่อง EDC มากกว่า วอนรัฐยกเลิกก่อนล้มทั้งกระดาน
หลังจากที่มีกลุ่มร้านโชว์ห่วยหรือร้านขายของชำ จำนวนมากได้โพสต์ข้อความระบายปัญหาและอุปสรรคของการเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งถ้ามองเป็นภาพรวมก็ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ก่อนที่จะล่มทั้งระบบ

ในส่วนของ จ.พะเยา ได้รับโควตาร้านธงฟ้าประชารัฐ จำนวน 445 แห่ง กระจายตัวอยู่ใน 9 อำเภอ ซึ่งแต่ละอำเภอก็มีปัญหาคล้ายๆ กันคือ เครื่อง EDC มาถึงช้า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดพะเยา ทราบว่า ณ วันที่ 7 พ.ค. 61 ทั้งจังหวัดได้รับเครื่อง EDC เพียง 247 เครื่องเท่านั้น และจะแจกอีก 191 เครื่อง ในวันที่ 9-10 พ.ค.นี้ ซึ่งก็หมายความว่าจะมีร้านที่เข้าร่วมโครงการที่ต้องรออีก 7 ร้าน ในขณะที่เวลาผ่านไปแล้วเกือบ 1 ปี
ปัญหาที่ตามมาของความล่าช้าเครื่อง EDC คือ ร้านค้าไม่สามารถขายสินค้าได้ เพราะเมื่อได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ แต่ละร้านก็ต้องซื้อของมาตุนให้พอเพียงกับปริมาณคน ซึ่งหมายความว่า 1 ร้านใน 1 เดือน จะมีผู้มาใช้ถึง 600คน เมื่อบัตรประชารัฐไม่สามารถรูดได้ เงินลงทุนจึงจม คนที่มีทุนน้อยก็เลยต้องปิดร้านไปโดยปริยาย

สำหรับในเขต อ.เมือง แม้จะได้รับเครื่อง EDC ครบเกือบทุกร้าน แต่ก็เจอปัญหา ว่า ห้างท้องถิ่นขนาดใหญ่ได้รับเครื่องมากถึง 6-7 เครื่อง กระจายไปตามสาขาต่างๆ ในขณะที่ร้านโชว์ห่วยก็ต้องไปซื้อข้าวของจากห้างท้องถิ่นในราคาแพง หรือราคาปกติ แต่ต้องมาขายลดลงอีก 10-20 เปอร์เซ็นต์ตามนโยบายของรัฐ
ในขณะเดียวกันห้างใหญ่ก็ลดราคาสินค้าของตัวเองให้กับผู้ถือบัตรรัฐสวัสดิการ มากกว่าที่ขายตามร้านโชว์ห่วย ซึ่งก็เท่ากับว่าห้างใหญ่กลืนกินร้านโชว์ห่วยทั้งขึ้นทั้งล่อง ร้านโชว์ห่วยทั่วๆ ไปก็เริ่มจะแบกรับภาระไม่ไหว เพราะซื้อของมาเต็มร้านแต่ขายออกไม่ได้ เพราะคนไปซื้อของจากห้างใหญ่ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า ราคาถูกกว่าร้านค้าในชุมชน เท่ากับว่าร้านค้าในชุมชนจะหยุดการเข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐหรือไม่ก็ต้องปิดการตัวเองลง เพื่อไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่านี้

น.ส.กัลยาณัฐ อ้อยบำรุง เจ้าของ ร้านอ๊อฟ จอน ร้านค้าใน ต.ท่าจำปี อ.เมือง จ.พะเยา เปิดเผยว่า ปัญหาของร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ก็คือ มีร้านที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ แต่กลับยอมให้ชาวบ้านเอาของไปก่อนและขอบัตรสวัสดิการรัฐไว้ ก่อนที่จะนำไปรูดที่ห่างใหญ่ในเมืองเพื่อเอากำไรส่วนต่าง และอีกปัญหาคือการที่มีห้างใหญ่ในเมืองได้รับเข้าโครงการด้วย แถมมีสาขากระจายไปในชุมชนใหญ่ๆ ทำให้คนพากันไปซื้อจากห้างใหญ่เพราะราคาถูกกว่าที่ซื้อตามร้านประชารัฐในหมู่บ้านหรือตำบล ทำให้ร้านโชว์ห่วยบางส่วนเริ่มจะไม่มีทุนและอาจจะปิดร้านไปในที่สุด

ซึ่งก็สอดคล้องกับ นางจันทร์ (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายของชำ ใน ต.แม่ใส อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเปิดเผยว่า ร้านที่เข้าร่วมโครงการแทบทุกร้านก็ไปซื้อของจากห้างใหญ่ในเมืองมาขาย กลับถูกห้างใหญ่ขายตัดราคา สินค้าบางตัวถูกกว่าในหมู่บ้านถึงเกือบครึ่งต่อครึ่ง ชาวบ้านจึงนิยมไปซื้อที่ห้างใหญ่หรือสาขาของห้างมากกว่าซื้อจากร้านในหมู่บ้าน จึงวิงวอนภาครัฐขอให้ยุติหรือยกเลิกให้ห้างใหญ่ในจังหวัดพะเยาหรือห้างทั่วประเทศไม่ให้เข้าร่วมโครงการ ก่อนที่ร้านโชว์ห่วยจะปิดตัวลง









