
อนาคตใหม่แจงขอให้เลือกตั้งใหม่ เขต 1 นครปฐม ไม่ได้ขัดแย้งกับประชาธิปัตย์ แต่ต้องการให้การเลือกตั้งได้รับความเชื่อมั่น “ธนาธร” ตั้งคำถาม เกิดความผิดพลาดแต่ทำไม กกต.ไม่เคยออกมารับผิดชอบใดๆ พร้อมเรียกร้องให้มีคำสั่งไปยังทุกจังหวัดให้เปิดคะแนนทุกหน่วยเพื่อให้มีการตรวจสอบได้ทั้งหมด
วันที่ 30 เม.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา กรณีการถือหุ้นสื่อสารมวลชนซึ่งขัดกับคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคร่วมเดินทางไปด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงแถลงการณ์ของพรรคที่ขอให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐมหลังจากมีการนับคะแนนใหม่ไปแล้วและ กกต.นครปฐมแจ้งว่า ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ชนะไป 4 คะแนน
นายปิยบุตร กล่าวว่า การเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งกับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคต้องการสื่อสารถึง กกต. เรื่องปัญหาการนับคะแนนบกพร่อง ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เกิดกับเขต 1 นครปฐมเท่านั้น แต่เฉพาะเขตนี้มีการกลับคะแนนไปมาถึง 5 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าต่อให้ใครชนะอีกฝ่ายก็ต้องท้วงติงเช่นกัน ทำให้ไม่เกิดความเชื่อมั่น วิธีการที่ดีที่สุดคือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
นอกจากนี้จากข้อสงสัยเรื่องผลคะแนนในอีกหลายเขต จึงเรียกร้องให้ กกต.ทุกจังหวัดเปิดคะแนนเลือกตั้งรายหน่วยให้มีการตรวจสอบ

ด้านนายธนาธร กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญมากกว่าคือ การที่คะแนนไม่เหมือนแต่ละครั้ง กกต.ไม่ต้องรับผิดชอบ ตนคิดว่านี่เป็นประเด็นใหญ่มากในสังคม ที่ผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. กับการนับใหม่ 28 เม.ย. คะแนนต่างกัน แต่ กกต. ไม่เคยต้องชี้แจงไม่เคยออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ เราต้องตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างที่ อ.ปิยบุตร ชี้แจงว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ต้องการตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ เราเคารพผลการเลือกตั้ง และผลการนับคะแนนถ้ายุติธรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นการนับคะแนน 2-3 ครั้ง รวมทั้งการรวม 5 ครั้ง กลับไปกลับมาโดย กกต.ไม่ต้องรับผิดชอบ จึงเห็นว่า กกต.ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการเลือกตั้งทำให้การเลือกตั้งสง่างาม ถ้าผู้คนไม่เชื่อถือผลการเลือกตั้งประเทศเดินหน้าต่อไม่ได้
สำหรับการขอให้เลือกตั้งใหม่เป็นเรื่องความถูกต้องไม่ใช่เสียเปรียบได้เปรียบ ถ้าเลือกใหม่แล้วแพ้เราก็ยอมรับ ส่วนการทำให้ กกต.รับผิดชอบ เราจะเรียกร้องให้ กกต.มีคำสั่งไปยัง กกต.ทุกจังหวัดให้เปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศ จากจุดนั้นเราจะเริ่มตรวจสอบว่าหน่วยใดมีความผิดปกติอย่างไร ขอให้เปิดข้อมูลให้มีความโปร่งใส

เมื่อถามถึงกรณีมีผู้ร้องว่า มีว่าที่ ส.ส.และผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ถือหุ้นสื่อสารมวลชน ซึ่งอาจทำให้ขาดคุณสมบัติและจะต้องถูกดำเนินคดี นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้สบายใจครับ พรรคอนาคตใหม่มีข้อมูลในมือว่ามี ว่าที่ ส.ส. พรรคอื่นอีกมากมายที่มีลักษณะเดียวกัน ถ้าจะใช้บรรทัดฐานนี้ ส.ส.ทุกพรรค ก็คงหายกันหมด
นายปิยบุตร กล่าวเสริมว่า กรณีสมาชิกพรรคทั้ง 11 คน ตรวจสอบทั้งหมดแล้วไม่มีปัญหาแน่นอน บางคนได้แจ้งปิดบริษัทที่ถือหุ้นไปแล้ว ชำระบัญชีไปแล้ว บางคนโอนหุ้นไปก่อนแล้ว ส่วนคนที่พยายามไปยื่นร้องเรียน ถ้าหากร้องเรียนเป็นเท็จโดยต้องการให้ผู้สมัครถูกเพิกถอนสิทธิ์หรือถูกใบเหลืองใบแดง คนที่ร้องเรียนมีโทษ ตามมาตรา 143 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. บรรดานักร้องเรียนทั้งหลายต้องระวังเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ มาตรา 143 พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ใน 2 วรรคแรก ระบุว่า ผู้ใดกระทําการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทําการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี
ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี









