นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลไม่แบ่งชนชั้นคนในสังคมจากการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมเปลี่ยนชื่อบัตร อาจใช้ชื่อว่า “บัตรความสุข”
วันที่ 16 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีมีนักการเมืองออกมาระบุว่า รัฐบาลแบ่งแยกชนชั้นจากการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยย้ำว่า ตนไม่เคยเรียกบัตรคนจนเลย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า บัตรนี้เป็นบัตรประชารัฐที่จะดูแลทุกคนให้เกิดความพอเพียง ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็ต้องเข้าถึงโอกาส รัฐบาลก็เข้าไปปลดล็อกให้ทุกคนเข้าถึง
ส่วนเรื่องความเท่าเทียมก็ดูแลในเรื่องของผู้มีรายได้น้อยให้ยังชีพอยู่ได้ในขณะที่ยังไม่เข้มแข็ง แต่ทำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เงินอาจไม่มากนัก แต่ทุกคนพอใจ ไม่กระทบต่อการคลังของประเทศ เพราะจะแก้อะไร ต้องดูว่า เรามีสัดส่วนในการแก้ปัญหาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าได้ไปเยอะๆ งบประมาณลงทุนพัฒนาชุมชนก็หายไป วันนี้เราต้องใช้งบจำนวนมากในการสร้างโครงสร้างที่เข้มแข็ง ผลตอบแทนไม่ได้ให้วันนี้ แต่ในอีก 3-5 ปี นั่นคือโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่
ทั้งนี้ ก่อนประชุม ครม. นายกฯ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า พอใช้แก้จน ก็มีคนแปลงเจตนาผิดไปมองว่า เป็นการแบ่งแยกชนชั้น แต่ถ้าเขาเข้าใจก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นประเด็นทางการเมือง ดั้งนั้นลองไปเปลี่ยนดู เราใช้คำว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการดูแลประชาชนที่ขึ้นทะเบียน เราไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ลองไปเปลี่ยนชื่อดูว่า จะเรียกอย่างไรได้เต็มปาก เป็น “บัตรความสุข” หรืออะไรทำนองนี้ได้ไหม พอบอก บัตรคนจน กลายเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้แก้ปัญหาเป็นเรื่องเป็นราว พอเราแก้มาก็ถูกโจมตีโน้นนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังแล้วกัน
“วันนี้คนก็ไม่มีใครอยากถูกเรียกว่า คนจน ผมก็ไม่ได้มองเขาแบบนั้น เพียงแต่ต้องเพิ่มการกระจายรายได้ให้กับเขา โครงการต่างๆ ก็ไม่ได้แก้จน แต่เป็นการเพิ่มความสุขให้กับเขา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคนรวยคนจนก็สามารถเข้าถึงโอกาสได้” นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ขออย่าทำการเมืองแบบเดิมๆ เลยดีกว่า ขอให้ทำแบบใหม่กับตนเถอะ ใครจะทำก็ว่ามา ดีกว่าโจมตีกันไปมาไม่มีประโยชน์ อย่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชน (เพจเฟซบุ๊ก) ไม่ใช่เป็นการเมือง และงานเหล่านี้ที่มาแสดงไม่ใช่เป็นการโปรโมท ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ
สิทธิ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ปัจจุบัน ( ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน)
- รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี กดเงินสด 500 บาทต่อเดือน
- รายได้สูงกว่า 30,000 ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี กดเงินสด 300 บาทต่อเดือน
- ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิบัตรทอง 30 บาท
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากร้านที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
- วงเงินค่าโดยสารรถประจำทาง (รถเมล์) / รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าโดยสารรถบขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
