แฟ้มภาพประกอบข่าว
ประเด็นคือ – นายกฯ ยืนยันในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน รัฐบาลเดินหน้ามาตรการผลักดันให้ ปชช.หลุดพ้นวงจรหนี้
วันที่ 6 ม.ค. 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คืนวันศุกร์ ที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า แม้ในช่วง 3 ปี ตัวเลขหนี้ครัวเรือนจะลดลง แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยยังกระจายไม่ทั่วถึง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ยังต้องพึ่งพาการกู้ยืมสำหรับใช้จ่ายเป็นค่าครองชีพ ส่งผลทำให้ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากวงจรหนี้
แฟ้มภาพประกอบข่าว
รัฐบาลจึงมีมาตรการหลายอย่างทั้งการปรับโครงสร้าง, การพักชำระหนี้ของเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ รวมทั้งคลินิกแก้หนี้ โดยให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับผู้ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินและหนี้นอกระบบ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงมาตรการเยียวยาระยะสั้น ขณะที่ยังมีสาเหตุอีกหลายประการที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาหนี้ให้ได้อย่างยั่งยืน
แฟ้มภาพประกอบข่าว
นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญเรื่องการออม ต้องใส่ใจและปลูกฝังเยาวชนไทยเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ รัฐบาลนี้จึงมีช่องทางในการออม เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มมีเงินใช้หลังเกษียณ โดยรัฐบาลจะช่วยสมทบออมให้ด้วย ซึ่งเรียกว่ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อเป็นทางเลือกในการออมให้กับประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระด้วยสมัครใจ เมื่อเกษียณจะได้รับเงินบำนาญรายเดือนจากกองทุนการออมแห่งชาติ หรือเงินบำเหน็จจากกองทุนประกันสังคม ในจำนวนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพด้วย
แฟ้มภาพประกอบข่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การออมของผู้มีรายได้น้อยอีกวิธีหนึ่งคือการอุดรูรั่วของรายจ่าย จะทำได้ต้องมีการทำบัญชีครัวเรือน ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน และไม่ใช้จ่ายเกินตัว ซึ่งจะทำให้มีแผนการเก็บเงินเพื่อค่าใช้จ่ายในอนาคตที่คาดการณ์ล่วงหน้าได้ อาทิ ค่าเทอมลูก ค่าน้ำมัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนทบทวนและพัฒนาตนเอง ยิ่งเริ่มออมได้เร็วเท่าไร ก็จะทำให้อยู่ได้อย่างมั่นใจ แก่ได้อย่างมั่นคง
