
วันที่ 2 ม.ค. กระทรวงพลังงาน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2562 เรื่องสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่ส่งผลต่อการผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ใจความสำคัญระบุว่า กรณีพายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) บริเวณอ่าวไทย ได้มีการประสานงานกับผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลให้ถอนตัวเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นในการผลิตกลับขึ้นฝั่งแล้ว
ส่วนเรื่องผลกระทบจากการหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในระยะนี้ ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลงจากการที่แหล่งบงกชเหนือหยุดการผลิตประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากปริมาณการผลิตทั้งหมดในอ่าวไทยจำนวน 2,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ได้มีการเตรียมรับมือโดย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะส่งก๊าซธรรมชาติที่ถูกทำให้เหลว (LNG) เข้าระบบเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
ด้านการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้สำรองจากเชื้อเพลิงอื่นมากขึ้น โดยได้สำรองน้ำมันดีเซล และน้ำมันเตาทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าอย่างเพียงพอหากจำเป็น รวมถึงการนำเข้าไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ
สำหรับก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ส่งเข้าโรงแยกก๊าซลดลง กรมธุรกิจพลังงานและบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะบริหารจัดการให้มีปริมาณ LPG เพียงพอต่อการใช้ของประชาชน
ในส่วนของน้ำมันดิบที่หยุดการผลิตประมาณ 27,000 บาร์เรลต่อวันจากปริมาณการผลิตปัจจุบัน 100,000 บาร์เรลต่อวัน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ในประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยืนยันว่าในภาพรวมสามารถบริหารจัดการโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งให้ทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป










