ปิดดีล! เซ็นต์ควบ “ทหารไทย-ธนชาต” เตรียมตั้งชื่อแบงก์ใหม่ ยันยังไม่ยุบสาขา ไม่กระทบลูกค้า

ถือเป็นอีกภาพของการเปลี่ยนแปลงของแวดวงธนาคารพาณิชย์ หลังจากธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายเตรียมควบรวมกิจการกัน ภายในปีนี้ก็จะมีชื่อธนาคารใหม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจา ยังไม่ยุบสาขา ดังนั้น พนักงานยังทำงานตามปกติ ยืนยันว่าลูกค้าก็ยังใช้บริการได้เช่นเดิม

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็น ดีลใหญ่ ที่น่าสนใจ เพราะโลกที่เปลี่ยนไป การเเข่งขันรุนเเรงขึ้น การควบรวมกันจึงไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดหมาย ธนาคารทหารไทย เเละ ธนาคารธนชาต ลงนามกันเพื่อกำหนดกรอบเเละหลักการร่วมกิจการกัน ที่รวมกันก็เพราะว่าตามนโยบายรัฐ ที่จะทำให้เกิดธนาคารที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มความสามารถการเเข่งขัน เสนอผลิตภัณฑ์เเละบริการให้ลูกค้าได้ดีขึ้น

ซึ่งเมื่อรวมเเล้ว จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ลูกค้ารวมกัน 10 ล้านราย ลูกค้าไม่น้อย ดังนั้น ผู้บริหารของทั้งสองธนาคารยืนยันว่าการควบรวมครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อลูกค้า โดยสามารถยังคงใช้บริการสาขาได้ปกติของทั้ง 2 ธนาคาร ซึ่งอนาคตเมื่อได้ข้อสรุปควบรวมเเล้ว ลูกค้าก็จะได้ใช้บริการธนาคารในชื่อใหม่ด้วย

นาย ปิตติ ตัณฑเกษม ปธ.จนท.บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าว

“ด่านแรกคือ Diligent ก่อน หลังจากนั้นเสร็จก็ต้องมี integration plan โดยแผนบูรณาการต้องทำจากข้างหลังสู่ข้างหน้า เพราะเรา intergrade ระบบการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยี แพลตฟอร์มทั้งหลายให้พร้อมก่อน ก่อนที่เราจะไปปรับหน้าบ้าน ให้เป็นยี่ห้อใหม่ร่วมกัน เพราะฉะนั้นก็อยากให้ลูกค้าใหม่ทุกท่าน ยังคงใช้เป็นปกติเหมือนเดิมไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น” ปิตติ ตัณฑเกษม ปธ.จนท.บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าว

ทั้ง 2 ธนาคารจะไม่มีการลดจำนวนพนักงาน แต่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งการทำงานของพนักงานที่มีความซ้ำซ้อนกัน มาจัดสรรให้มีความเหมาะสมมากขึ้น และจะฝึกทักษะการทำงานของพนักงานให้มีความสามารถและเชี่ยวชาญมากขึ้น

ธนาคารธนชาต มีพนักงานจำนวน 12,000 คน และธนาคารทหารไทยมีจำนวนกว่า 8,000 คน ตามปกติในแต่ละปีจะมีพนักงานลาออกและเกษียณอายุใน 2 ธนาคารประมาณ 2,000 ต่อปี มองว่า ระดับอัตราพนักงานที่เหมาะสมจะอยู่ในระดับ 15,000 คนต่อปี

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ปธ.จนท.บริหารและกก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารธนชาต

“พนักงานของเราที่ซ้ำซ้อน จะปรับให้เล็กลงไม่ได้หนีไปไหนนะครับ มีการทำแผนธุรกิจทั้งคู่ ก็คงจะมีแผนการ re skill พนักงานของเรา แทนที่จะทำ transection เยอะขึ้น ก็ไปอยู่ใน digital มากขึ้น แล้วก็มีการขายของมีการให้บริการลูกค้ามากยิ่งขึ้น” ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ปธ.จนท.บริหารและกก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าว

สำหรับจำนวนสาขาของธนาคารธนชาตมี 512 สาขาและธนาคารทหารไทยมี 400 สาขา อาจจะรวมสาขาที่ซ้ำซ้อนเข้าด้วยกันและต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ตั้ง ขนาด รูปแบบรองรับลูกค้าให้ตรงจุดมากขึ้น เรียกว่า เป็นการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่สู่ยุคดิจิทัลก็ว่าได้

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง

ด้าน นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการควบรวมระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาตว่า หลังจากลงนามในสัญญาการควบรวมกิจการแล้ว จะต้องนำเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติภายใน 3-4 เดือน ยืนยันว่า การควบรวมของทั้ง 2 ธนาคารจะสร้างประโยชน์ให้กับระบบธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่งขึ้น

ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ภายหลังการควบรวมกิจการแล้วจะทำให้ขนาดของธนาคารอยู่อันดับที่ 5-6 เท่าเดิม แต่จะมีทุนเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ซึ่งจะส่งผลดีต่อด้านการแข่งขัน ส่วนกระทรวงการคลังจำเป็นต้องเพิ่มทุนหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาถึงผลประโยชน์