
วันนี้ กสทช. เชิญ ทีโอที และ ดีแทค ผู้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ มาหารือ รวมทั้งบีทีเอส เพื่อหาทางแก้ปัญหาคลื่นที่อาจรบกวนการเดินรถไฟฟ้า ผลสรุปคือ ค่ายมือถือจะปิดสัญญาณฐานตามแนวรถไฟฟ้า 2 วัน ให้บีทีเอสปรับเปลี่ยนระบบสัญญาณใหม่ให้เรียบร้อย
วันที่ 27 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่าง กสทช. ผู้บริหารบีทีเอส ทีโอที และดีแทค ได้ข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องว่า ทีโอที จะปิดสัญญาณคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ ตามแนวของรถไฟฟ้า 10 สถานี เป็นเวลา 2 วัน ป้องกันการรบกวนระบบวิทยุสื่อสารในระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟฟ้าบีทีเอส ในระหว่างที่ บีทีเอสปรับเปลี่ยนระบบรับสัญญาณใหม่ จากคลื่น 2400 ช่วงต้น ไปเป็น 2400 ช่วงปลาย ซึ่งจะแล้วเสร็จวันที่ 29 มิถุนายนนี้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันคลื่นความถี่ของทีโอทีและบีทีเอส ที่ใช้อยู่ในย่าน 2370-2400 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งห่างกันประมาณ 30 เมกะเฮิร์ตซ์ ถือว่ามีระยะห่างมากพอที่จะไม่เกิดการรบกวนของสัญญาณในทางเทคนิค แต่เมื่อเห็นว่ามีปัญหารบกวน กสทช.จึงแนะนำบีทีเอสให้ย้ายช่องความถี่สื่อสารของระบบอาณัติสัญญาณ
ทั้งนี้ยืนยันว่า การปิดคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ของทีโอที จะไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือค่ายดีแทค เพราะสามารถเปลี่ยนไปใช้คลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ได้

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอส
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ยอมรับว่า ในช่วงตลอดสัปดาห์นี้รถไฟฟ้ายังมีโอกาสขัดข้องอยู่บ้าง โดยผู้บริหารบีทีเอสอยู่ระหว่างหาข้อสรุปของการเยียวยาผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ
ส่วนการประชุมคู่สัญญาระหว่าง กรุงเทพมหานคร เจ้าของสัมปทาน และผู้เดินรถ หรือบีทีเอส ซึ่งเหลืออายุสัญญา 11 ปี กทม.ให้สำนักการจราจรและขนส่งไปพิจารณาว่า จะเรียกค่าปรับจากกรณีปัญหาการเดินรถได้หรือไม่ ตามหลักเกณฑ์ ค่าปรับคิดเป็นร้อยละ 0.6 ของ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าจ้างเดินรถต่อเดือน หรือคิดเป็นเงิน 1.8 ล้านบาท

นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ กทม.ยังสั่งการให้บีทีเอสพิจารณาเยียวยาผู้โดยสารเป็นรายกรณี ทั้งผู้ใช้บัตรโดยสารและจ่ายเงินสด และให้บีทีเอสปรับปรุงวิธีการประชาสัมพันธ์ให้รวดเร็วขึ้น

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ http://www.workpointnews.com
Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/
Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/
Twitter / https://twitter.com/workpoint_news









