
ประเด็นคือ – พ่อค้าเเม่ค้าคาดหวังว่าปีหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนออกจับจ่ายซื้อสิ้นค่า เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่
วันที่ 25 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้าเเม่ค้าหลายคนหวังว่าปีหน้าข้าวของน่าจะขายได้ดีกว่าปีนี้ จึงเสนอให้รัฐเพิ่มช่องทางในการขายเเละอยากให้มีเเหล่งเงินทุนที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เเละโอทอป บางรายยอมรับคะว่าการเข้าถึงเเหล่งเงินทุนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ทางหนึ่งที่พอทำได้คือการเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์เพื่อให้ขายสินค้าให้ได้มากที่สุด

เเม้จะขณะนี้จะมีหลายหน่วยงานรัฐให้ความสำคัญกับการยกระดับเเละพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเเละโอทอป เเต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยอมรับว่า การเข้าถึงเเหล่งเงินยังเต็มไปด้วยข้อจำกัด เขาจึงปรับตัวเเละเรียนรู้การเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ ไม่ต่างจากผู้ประกอบการชามเซรามิค ที่ยอมรับว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง บวกกับต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักอย่างเเก๊สหุงต้ม เเต่เขาไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้จึงต้องการให้รัฐหามาตรการช่วยเหลือ
ขณะที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กระทรวงอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายของ สสว. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและสนับสนุนเอสเอ็มอีให้มากขึ้น โดยมีสาระสำคัญคือ เพิ่มหลักเกณฑ์เรื่อง “รายได้” กำหนดนิยามลักษณะของ SME สอดคล้องกับการเจริญเติบโตและลักษณะของการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการส่งเสริมเอสเอ็มอี เเละสสว.จะทำงานบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงิน เเต่ยอมรับว่าการปรับครั้งนี้อาจไม่ได้มีผลต่อการเข้าถึงเเหล่งเงินทุนโดยตรง
ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีจำนวน 3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.7 ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ และกลุ่มเอสเอ็มอีมีการจ้างงานเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเกือบ 12 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 78.5 ของการจ้างงานทั้งประเทศ ขณะที่ GDP SME อยู่ที่ร้อยละ 42.6 ของ GDP ประเทศ









