
ประเด็นคือ – นายธนาธร ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ทำหนังสือถึง คสช.ขอจัดประชุมตั้งพรรคในวันที่ 27 พ.ค.นี้ พร้อมเรียกร้อง คสช.ปลดล็อกกิจกรรมทางการเมือง ชี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯอีก พรรคอนาคตใหม่จะขอเป็นฝ่ายค้าน
วันที่ 9 เม.ย.2561) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ตัวแทนผู้ร่วมจดแจ้งจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ เข้ายื่นหนังสือขออนุญาต คสช.ผ่านสำนักงาน กกต. เพื่อจัดประชุมก่อตั้งพรรคการเมืองในวันที่ 27 พ.ค.นี้ พร้อมเรียกร้อง คสช.ให้อนุญาตมีการจัดประชุม เพื่อยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง และยกเลิกประกาศหรือคำสั่งใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง โดยนายธนาธร กล่าวว่า หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า กรอบเวลาการดำเนินการของพรรคใหม่อาจไม่ทันการณ์ต่อกรอบวันเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และยอมรับว่าตามกรอบดำเนินการ ถือว่าพรรคใหม่เสียเปรียบยังติดขัดเรื่องคำสั่งห้าม คสช. และหวังว่า คสช.จะไม่เลือกปฏิบัติเมื่อเทียบกับพรรคที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
สาระสำคัญของแถลงการณ์ต่อการใช้อำนาจของ คสช. 3 ข้อคือ 1. ตามเงื่อนไขการดำเนินการสำหรับพรรคใหม่ในคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 กำหนดกรอบเวลาให้การจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งภายใน 180 วันนับแต่นายทะเบียนรับแจ้งคำขอแจ้งการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งอนาคตใหม่ยื่นคำขอไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 จึงขอให้ คสช.มีคำสั่งอนุญาตโดยเร็ว ไม่อิดออดล่าช้า โดยอ้างอิงว่า คสช.ได้อนุญาตให้พรรคอื่นดำเนินการไปแล้ว 13 พรรค
2.เรียกร้องให้ยกเลิกประกาศและคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการทางการเมือง ทั้งคำสั่ง 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฏหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง, ประกาศ คสช.ที่ 57/2557 เรื่องให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป และคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ โดยไม่ต้องรอการมีผลบังคับใช้ของกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้าย หรือร่าง พรป.ว่าด้วย ส.ส. และร่าง พรป.ว่าด้วย ส.ว. โดยอ้างอิงถึงผลกระทบต่อพรรคการเมืองในการเตรียมจัดการเลือกตั้งการกำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งที่อาจไม่ทันภายในกรอบเวลา 150 วันนับแต่กฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้
3.เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งสำคัญสะท้อนความต้องการของประชาชน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมืองอย่างเต็มที่ โดยยุติการดำเนินคดีต่อประชาชนที่ใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นรณรงค์เรื่องมีการเลือกตั้ง เพื่อสร้างบรรยากาศการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีและทำให้การเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นไปอย่างยุติธรรมมาตรฐานสากลตามแบบรัฐเสรีประชาธิปไตย มิฉะนั้น การเลือกตั้งจะกลายเป็นเพียง “พิธีกรรม” สร้างความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจของ คสช.









