พานทองแท้ ย่องพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาฟอกเงินคดีกรุงไทยแล้ว

พานทองแท้ ย่องพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาฟอกเงินคดีกรุงไทยแล้ว

ประเด็นคือ –  พานทองแท้ ชินวัตร กับ พวก เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอก่อนกำหนด รับทราบข้อกล่าวหา สมคบกันและฟอกเงิน กรณีธนาคารกรุงไทยอนุมัติเงินกู้ให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครฯ แล้วเมื่อวานนี้ (17 ต.ค. 60)

วันนี้ (18 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกเอกสารเรื่อง “ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินเข้ามอบตัวก่อนกำหนด” แจ้งว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ง. ได้มีหนังสือ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบบุคคลที่รับโอน หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องนี้มีจำนวน 10 ล้านบาท และ จำนวน 26 ล้านบาท  ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25 / 2560 ต่อมาพนักงานอัยการ และ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่า คดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลจำนวน 4 คน ได้แก่

  1. นางเกศินี จิปิภพ
  2. นางกาญจนาภา หงษ์เหิน
  3. นายวันชัย หงส์เหิน
  4. และนายพานทองแท้ ชินวัตร

ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป  ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว” และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้บุคคลดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหา ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560

 

ภายหลังจากได้รับหมายเรียก บุคคล 4 คนได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนกำหนดเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. บุคคลทั้ง 4 คนได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน ได้ร่วมกันแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาและแจ้งข้อหาบุคคลทั้ง 4 คน ข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป , ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิด  ฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ” ตามมาตรา 5 , มาตรา 9 วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แล้ว โดยผู้ต้องหาทุกคนปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สอบสวนปากคำไว้ และผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประสงค์จะส่งเอกสารเพื่อประกอบการแก้ข้อหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดยเร็ว และ เนื่องจากบุคคลทั้ง 4 คน ยังไม่มีหมายจับของศาล เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้น จึงเดินทางกลับ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.

ทั้งนี้ ดีเอสไอ ยังระบุในตอนท้ายเอกสารดังกล่าวว่า ทั้งนี้หากผลการสอบสวนมีความคืบหน้าเป็นประการใดจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นระยะต่อไป

 

ขอบคุณภาพ Oak Panthongtae Shinawatra

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง