
เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ หันมารวมกลุ่มปลูกข้าวอินทรีย์ เพื่อบรรจุขาย-ไว้กินเอง หลังราคามะพร้าวตกต่ำ เหลือลูกละ 3-4 บาท เท่านั้น
วันที่ 24 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ที่กำลังมีราคาตกต่ำจนถึงที่สุดในรอบ 30 ปี ได้รวมกลุ่มกันปลูกข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยสำรวจพื้นที่ที่เหลือจากการปลูกมะพร้าวและพื้นที่ที่ถูกหนอนหัวดำมะพร้าวและแมลงดำหนาม กัดกินจนต้นตาย ช่วยกันพลิกฟื้นเป็นพื้นที่นาเพื่อจัดตั้งเป็นกลุ่มผู้ปลูกข้าวปลอดสารพิษ ช่วยกันปลูกเอง กินเอง เหลือก็ช่วยกันนำไปสีเพื่อบรรจุถุงขายให้กับสมาชิกในราคาถูก และผู้สนใจทั่วไปได้รับประทานข้าวสารปลอดสารพิษ

นายประเสริฐ ยุวกาฬกุล อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แกนนำกลุ่มข้าวเกษตรอินทรีย์ทำนาบางสะพาน เปิดเผยว่า ต้องปรับเปลี่ยนสวนมะพร้าว เพื่อให้มีรายได้เพิ่มหลังจากราคามะพร้าวตกต่ำอย่างหนัก ในสวนเหลือเพียงลูกละ 3-4 บาท เท่านั้น หักค่าสอย ค่าเก็บ ค่าบรรทุก ค่าปุ๋ยแล้วไม่เหลืออะไร บางสวน 2 เดือน เก็บครั้ง บางสวนปล่อยทิ้งไม่สอยไว้รอเก็บใต้โคนเพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อทำนาข้าวชีวภาพ สำหรับพันธุ์ข้าว เป็นข้าวพันธุ์สังฃ์หยด ไรซ์เบอรี่ หอมประทุม กข 61 กข 43 และหอมมะลิธรรมศาสตร์ มีการเพาะต้นกล้าก่อน เมื่อฝนตกลงมาก็ได้ช่วยกันถอนกล้านำไปทยอยปลูก มีทั้งนาดำ นาโยน และนาหว่าน ในพื้นที่รวมแล้วกว่า 250 ไร่

สำหรับการบำรุงรักษาและการกำจัดศัตรูพืชนั้น ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพที่ผลิตเอง รวมทั้งน้ำหมักที่หมักเองในการไล่แมลง เพื่อให้ข้าวปลอดสารพิษทุกชนิด ถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะออกแขกกัน แล้วนำมาสี ใส่ถุงละ 1 กิโลกรัม ส่วนหนึ่งขายให้สมาชิกในราคาถูก ส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่และประชาชนทั่วไป
นายวิจิตร คงสงค์ เกษตรอำเภอบางสะพาน เปิดเผยว่า ได้เร่งส่งเสริมให้เกษตรกรเอาที่ดินมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด โดยให้มีการปลูกพืชที่บริโภคได้ ซึ่งข้าวเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต เพื่อจะได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน อีกทั้งข้าวที่ปลูกแบบชีวภาพก็จะทำให้ดีต่อสุขภาพ ในส่วนที่เหลือก็นำไปขายได้ ซึ่งข้าวชีวภาพกำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค










