ขสมก.ชี้ ยกเลิก “Cash Box” เหตุใช้งานไม่ได้ แจงไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า

ขสมก.ชี้ ยกเลิก “Cash Box” เหตุใช้งานไม่ได้ แจงไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า

  • ขสมก. ยกเลิกสัญญาเช่าเฉพาะเครื่องเก็บค่าโดยสาร Cash box เนื่องจากระบบใช้งานไม่ได้จริง 
  • โดยเป็นไปตามสัญญา หากยกเลิกสัญญาบางส่วนจะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าส่วนที่ยกเลิก ซึ่ง ขสมก. ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าใดๆ จึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับ ขสมก.
  • ยังคงใช้เครื่องอ่านบัตร E-Ticket สำหรับบัตรผู้มีรายได้น้อยฯ และบัตรแมงมุมในอนาคต

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 61 นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ชี้แจงข้อวิจารณ์การยกเลิกเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) บนรถโดยสารประจำทาง ที่ได้ติดตั้งไปแล้ว 100 คัน พบระบบไม่เสถียร ทดลองหลายครั้งใช้งานไม่ได้ อีกทั้งไม่ได้ทำให้การลดพนักงานเก็บค่าโดยสารเป็นไปตามที่วางแผนไว้ด้วย

ทำให้สื่อโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งวิจารณ์ในเชิงลบ พร้อมตั้งคำถามถึง ขสมก. ว่าจะรับผิดชอบต่องบประมาณที่ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรนั้น ขสมก. ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

ที่มาของโครงการ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 57 ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการนำระบบตั๋วร่วม (E-ticket) มาใช้ในการเชื่อมการเดินทางของประชาชนที่สัญจรโดยเรือโดยสาร รถไฟฟ้า และรถประจำทาง และให้คำนึงถึงการให้บริการแก่ผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงระบบบริการขนส่งสาธารณะ

ขสมก. จึงได้ดำเนินการจัดหาและติดตั้งระบบ E-Ticket และเครื่องเก็บค่าโดยสาร Cash box ในรถโดยสารของ ขสมก. จำนวน 2,600 คัน ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

โดย ขสมก. ได้ทำสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) กับกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทหลัก มีกำหนดการเช่า 5 ปี ตามสัญญาเลขที่ ช.15/2560 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 60

เครื่องแตะบัตร E-Ticket

การเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) มีการติดตั้งระบบ 2 ส่วน คือ เครื่องอ่านบัตร (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ซึ่งปัจจุบัน ขสมก. ยังไม่ได้ทำการตรวจรับจากการทดสอบระบบของคณะกรรมการตรวจรับ พบว่าเครื่องอ่านบัตร (E-Ticket) สามารถอ่านบัตรได้ใช้งานได้ตามเงื่อนไข TOR  ส่วนเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ระบบไม่เสถียรทำงานไม่สมบูรณ์

ขสมก. มีนโยบายจะยกเลิกสัญญาเฉพาะในส่วนของเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) เนื่องจากการใช้งานเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ยังมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารเงินสด ระบบทอนเงินใช้เวลานานส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด ประกอบกับการนำเสนอแผนฟื้นฟู คณะอนุกรรมการ คนร. และ คนร. ให้พิจารณาผลกระทบต่อพนักงานเก็บค่าโดยสารที่ต้องเออรี่รีไทร์ อาจสร้างปัญหาในด้านแรงงาน ในอนาคต ขสมก. จึงใช้ระบบเครื่องอ่านบัตร (E-Ticket) เพียงอย่างเดียว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และนโยบายการไม่ใช้เงินสดในส่วนของ ขสมก. ยังสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารเงินสดได้ด้วย

ขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญญา และหารือกรมบัญชีกลางในการยกเลิกสัญญาบางส่วนดังกล่าว โดยตามสัญญาฯ ข้อ 9 ระบุไว้ว่า “ผู้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วนได้ หากผู้ให้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใด…”

สำหรับงบประมาณที่ใช้ในโครงการนี้  เนื่องจากเป็นโครงการเช่า หากยกเลิกสัญญาบางส่วนก็ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าในส่วนที่ยกเลิก จึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับ ขสมก. ในส่วนค่าปรับผู้ให้เช่าต้องจ่ายค่าปรับจนถึงวันที่ยกเลิกสัญญา ซึ่งปัจจุบัน ขสมก. ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าใด ๆทั้งสิ้น

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ขสมก.ชี้ ยกเลิก “Cash Box” เหตุใช้งานไม่ได้ แจงไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า