คุณลุงชาวสุราษฎร์ฯ ยึดอาชีพปีนต้นตาลขายมากว่า 30 ปี สร้างรายได้ให้เฉลี่ยปีละกว่าล้าน เผย ตลาดมีความต้องการสูง
วันที่ 28 ม.ค. 62 นายสุรมนตรี เมืองนิเวศ หรือฉายา มิสเตอร์ช้อย อายุ 62 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 3 ต.ท่าเคย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า ได้ยึดอาชีพปีนต้นตาล นำน้ำตาลสดมาบรรจุขวด พร้อมทำเป็นน้ำผึ้งตาล น้ำตาลโตนด น้ำส้มส้มตะโหนดและน้ำตาลเมา และลูกตาลอ่อนขายส่งทั่วไปเป็นเวลากว่า 30 ปี ซึ่งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอย่างดี จนมีคนรู้จักมากมาย และมาศึกษาดูงานการปีนต้นตาล ที่มีความสูงหลาย 10 เมตร
ด้าน นายชำนาฐวิทย์ เมืองนิเวศ อายุ 35 ปี บุตรชายได้เปิดเผยว่า นายสุรมนตรี พ่อของตนได้ทำก่อน โดยปลูกต้นตาลแซมในสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่จำนวน 5 ไร่ ประมาณ 60 ต้น โดยนำเงินที่ได้จากทำน้ำตาลสดขาย มาส่งเสียจนลูกๆ เรียนจบ
เมื่อลูกๆ เรียนจบก็บอกให้พ่อหยุดทำ เนื่องจากเห็นว่าการปีนต้นตาลเพื่อปาดงวงตาล นำน้ำตาลสด ที่อยู่ปลายยอดต้นตาลสูงหลาย 10 เมตร เป็นสิ่งอันตราย แต่พ่อไม่ยอม ตนจึงเข้ามาร่วมทำจนเป็นธุรกิจของครอบครัว
โดยพ่อจะขึ้นไปต้นตาลวันละ 2 รอบ ก็คือในช่วงเช้าและช่วงเย็น ก็จะเรียกกันว่าน้ำตาลสดเช้า และน้ำตาลสดเย็น เมื่อได้มาแล้วก็จะนำมาต้มให้พอเดือด และบรรจุลงขวด ขายส่งให้กับพ่อค้าทั่วไปวันละประมาณ 100 ขวด
หากปริมาณน้ำตาลสดมีมากก็จะแปรูปเป็น น้ำผึ้งตะโหนด น้ำตาลตะโหนด น้ำส้มตะโหนด และน้ำตาลเมา พร้อมทั้งลูกตาลอ่อน ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงแรกที่เริ่มทำน้ำตาลจะมีรายได้ขั้นต่ำประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาทขึ้นไปจนถึง 1 แสนกว่าบาท หากเฉลี่ยทั้งปีก็จะมีรายได้จากการปีนต้นตาลกว่า 1 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบรายได้กับต้นปาล์มน้ำมันแตกต่างกันมาก ซึ่งในหนึ่งเดือนต้นปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตเป็นมูลค่าเดือนละ 2,000 บาทต่อต้น ในขณะที่ต้นตาลสร้างรายได้ 20,000 กว่าบาทต่อเดือน ซึ่งในปัจจุบันนี้คนทำอาชีพปีนต้นตาลหรืออาชีพปาดตาลมีน้อย แต่ในขณะที่ตลาดมีความต้องการสูง และวัตถุดิบมีไม่มากนัก
