ระทึก! “บิ๊กตู่” พาคณะบินลงใต้ เครื่องบิน C130 ใบพัดขัดข้อง บินวกกลับเปลี่ยนเครื่องใหม่

ระทึก! “บิ๊กตู่” พาคณะบินลงใต้ เครื่องบิน C130 ใบพัดขัดข้อง บินวกกลับเปลี่ยนเครื่องใหม่

แฟ้มภาพเครื่องบิน C130 ภาพโดย TNP

เครื่องบิน C130 ของคณะนายกรัฐมนตรีที่บินไปภารกิจ จ.สุราษฎร์ธานี และจ.กระบี่ ใบพัดขัดข้อง ไม่ทำงาน 1 ตัว ทำให้ต้องวนกลับมาเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง แล้วเดินทางไปตรวจราชการตามเดิม

เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (21 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2  กองบิน 6  ดอนเมือง ด้วยเครื่องบิน C-130 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่ โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

ทั้งนี้ ตามกำหนดการเดิมของ นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง ด้วยเครื่องบิน C 130 ของกองทัพอากาศ เลขเครื่อง 60109  ถึงสนามบินนานาชาติสมุย ในเวลา 08.20 นาที แต่ภายหลังเครื่องขึ้นไปได้ประมาณ 45 นาที ปรากฏว่าเครื่องบินใบพัดขัดข้อง ทำให้ต้องวนเครื่องกลับมาที่สนามบินดอนเมืองเพื่อเปลี่ยนลำ เป็นเครื่องบิน CN 295 เลขเครื่อง 16150  ของกองทัพบก  ซึ่งทำให้กำหนดการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ล่าช้าไปประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

(แฟ้มภาพ) นายกรัฐมนตรีและคณะก่อนออกเดินทางตรวจราชการ

สำหรับกำหนดการการตรวจราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่ ในการลงพื้นที่จุดแรกนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลสู่เกาะสมุย พร้อมเป็นสักขีพยานในโอกาส ที่รมว.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการมอบหนังสือโครงการป่าชุมชน บ้านธารน้ำร้อน แก่ผู้แทนจำนวน 1 ราย และผวจ.สุราษฎร์ธานี มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ภายในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้ผู้ตัวแทนเกษตรกร จำนวน 10 ราย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล่าวมอบนโยบายแก่หน่วยงานและประชาชนในท้องถิ่น

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมสวนลางสาดของนายประวิทย์ พรหมรักษ์ โดยมีกิจกรรมตัดช่อลางสาด ซึ่งเป็นผลไม้ประจำถิ่นสายพันธุ์ และเป็นผลไม้ที่มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมของคนภาคใต้ และเดินต่อไปยัง ชุมชน OTOP นวัตวิถีบ้านหินลาด เพื่อรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับชุมชนบ้านหินลาด เยี่ยมชมสินค้าของชุมชนบ้านหินลาดและของดีเมืองสมุย  ก่อนเดินทางต่อไปยัง จ.กระบี่ ในเวลา 13.30 น.

นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบธงสัญลักษณ์ในการจัดงานการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, 2020 ให้กับจังหวัดนครราชสีมา ที่ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน โดยจังหวัดกระบี่ ในฐานะเจ้าภาพ Biennale 2018  จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม “หนังตลุงประยุกต์” และการแสดง “โคราชต้อนรับ” ของจังหวัดนครราชสีมา ในนามเจ้าภาพ Biennale 2018  โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานสักขีพยานในพิธีสำคัญ ได้แก่ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม มอบโล่รางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดเรื่องเล่า “เบียนนาเล่ของฉัน ณ กระบี่” จำนวน 14 ราย และมอบภาพให้แก่หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน จำนวน 2 ราย

ต่อจากนั้น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้า ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้แก่ผู้แทนราษฎร จำนวน1  ราย และมอบหนังสือโครงการป่าชุมชน บ้านคีรีวงศ์ ให้แก่ผู้แทนราษฎร จำนวน 1  ราย  จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายแก่ข้าราชการและหน่วยงานในท้องถิ่น พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่าย Thailand Biennale, Krabi 2018 และพิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน ก่อนเยี่ยมชมประติมากรรมปูดำ (ครอบครัวปูดำ 4 ตัว) ซึ่งเป็นตัวแทนสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าชายเลนหน้าเมืองกระบี่และความสัมพันธ์ของครอบครัวสอดคล้องกับคำขวัญของเมืองกระบี่ “กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” และเยี่ยมชมผลงาน ดร.กมล ทัศนาญชลี และผลงานศิลปินท้องถิ่นจากโครงการถนนประติมากรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่  โดยจะเดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6  ในเวลา 19.35 น. โดยประมาณ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง