
ไม่ใช่ภาพพื้นที่จริง เป็นเพียงภาพประกอบข่าวเท่านั้น
หวันเข้าใจผิด รัฐไม่ได้ยกพื้นที่ป่าให้ปูนใหญ่ทำเหมืองหินแค่ต่ออายุตามประทานบัตรเดิม โดยหนังสือเข้าทำประโยชน์ได้หมดอายุ วันที่ 18 มิ.ย. 2554 แต่อายุประทานบัตรเหมืองแร่ยังคงเหลืออยู่ถึงวันที่ 27 เม.ย. 2579
วันที่ 7 มี.ค. 2562 จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อ 5 มี.ค.62 ผ่อนผันให้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับกวาง และป่ามวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยฯ ทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก แปลงที่ 1 จำนวน 15 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ในท้องที่ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก และ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย รวมเนื้อที่ 3,223 ไร่ 2 งาน 25 ตารางวา (พื้นที่ประทานบัตร 15 แปลง เนื้อที่ 3,311 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา) เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เนื่องจากหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2554 แต่อายุประทานบัตรเหมืองแร่ยังคงเหลืออยู่ถึงวันที่ 27 เม.ย. 2579

ไม่ใช่ภาพพื้นที่จริง เป็นเพียงภาพประกอบข่าวเท่านั้น
กรมทรัพยากรธรณีได้พิจารณาข้อมูลแหล่งแร่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพและปริมาณสำรองที่สามารถทำเหมืองได้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า ในช่วงการอนุญาตที่ผ่านมาผู้รับอนุญาตได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตถูกต้องครบถ้วน และได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ (Post Evaluation) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว (และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติให้บริษัทเฝ้าระวังด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนและคนงาน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่อย่างเคร่งครัดด้วย)
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความเห็นให้บริษัทได้รับการพิจารณาผ่อนผันให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เป็นการเฉพาะรายต่อไปได้จนสิ้นอายุประทานบัตร วันที่ 27 เมษายน 2579









