
“พุทธิพงษ์” ประเดิมงานโฆษกรัฐบาล ชี้แจงการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ก่อตั้งแทน นายกรัฐมนตรี ชี้หน้าที่ กกต. ตรวจสอบการทำกิจกรรมของทุกพรรคการเมือง
วันที่ 25 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอย “จังหวัดสะอาด” ประจำปี พ.ศ. 2561 และรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2561 โดยระหว่างเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สื่อมวลชนได้สอบถามถึงการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองต่างๆ อาทิ วันนี้พรรคพลังประชาชาติไทย (รปช.) ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทำกิจกรรมหาสมาชิกพรรคในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้หยุดตอบคำถามและโบกมือทักทายสื่อมวลชนเท่านั้น ก่อนมอบให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ซึ่งมาทำหน้าโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ชี้แจงแทน

นายพุทธิพงษ์ ตอบคำถามดังกล่าวแทนพล.อ.ประยุทธ์ว่า ทุกพรรคต้องปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ชัดเจนที่จะต้องติดตามและตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบและระเบียบ รวมถึงข้อกฎหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ตาม ซึ่งรวมถึงพรรค รปช. ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการเข้าไปแทรกแซง หรือ จะใช้อำนาจไปสั่ง กกต.ได้ เชื่อว่า กระบวนการอำนาจของ กกต. จะเข้มแข็งพอ ที่จะตรวจสอบทุกพรรคให้เป็นไปอย่างเท่าเทียมได้

(ภาพจาก FB : ACT PARTY)
เมื่อถามว่า จะถูกวิจารณ์หรือไม่ว่าพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลไม่ถูกดำเนินการอะไร ในขณะที่พรรคขั้วตรงข้าม เช่น พรรคเพื่อไทย กลับโดนห้ามดำเนินกิจกรรมมาตลอด นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ต้องไปดูที่ กกต. ว่า ใช้ข้อบังคับที่มีอยู่มาปฏิบัติได้เป็นไปตามกรอบหน้าที่มากน้อยเพียงใด ซึ่ง กกต. มีอำนาจเต็มและมีแนวทางที่จะตัดสิน หรือ ตรวจสอบการกระทำและกิจกรรมของแต่ละพรรคการเมือง
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชาชาติไทย ทำกิจกรรมคารวะแผ่นดิน เพื่อรับฟังปัญหาประชาชน และรับสมัครสมาชิกพรรคทั่วประเทศจะผิดคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ว่า กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองใดที่ดำเนินกิจกรรมในขณะนี้ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เตือนและแจ้งให้ทราบแล้วว่า จะมีการบันทึกไว้ทั้งหมด ถ้ามีการร้องเรียนหรือมีการตีความขึ้นมา ก็ต้องรับผลในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตีความ คนที่ทำก็ต้องระมัดระวังกันเอง อย่าทำผิดกฎหมาย









