
ประเด็นคือ – ทีมเศรษฐกิจ ไม่เห็นด้วยกับกรมสรรพสามิต ที่จะเสนอเก็บภาษีเหล้า-เบียร์เพิ่มอีกครั้ง หลังใช้อัตราภาษีใหม่ตั้งแต่ 16 กันยายนปีที่แล้ว แต่เก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า
มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลังว่า หลังจากกรมสรรพสามิต ได้เสนอเพิ่มอัตราการเก็บภาษีเบียร์และสุรา (เหล้า) ให้กระทรวงการคลัง เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ปรากฏว่า คณะกลั่นกรองทีมเศรษฐกิจ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าทีม ไม่ให้ความเห็นชอบ ทำให้ข้อเสนอของกรมสรรพสามิต ไม่เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.
สำหรับเหตุผล ที่กรมสรรพาสามิตเสนอเก็บภาษีเหล้า-เบียร์เพิ่มอีกครั้ง เพราะต้องการเก็บภาษีตามเป้าหมาย เนื่องจาก อัตราภาษีใหม่ที่ใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 2560 เก็บภาษีเหล้า-เบียร์ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ โดยหลังจากใช้อัตราภาษีใหม่ สามารถเก็บภาษีเบียร์ได้ประมาณ 4,168 ล้านบาท หรือ 11.2 % เพราะผู้ประกอบการใช้วิธีลดดีกรี และปริมาณบรรจุ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มตามอัตราใหม่ ซึ่งอัตราภาษีใหม่ที่เสนอนั้น กรมสรรพสามิต คาดการณ์ว่า หากบังคับใช้จะได้ภาษีเพิ่มขึ้นปีละ 4,000 – 5000 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่ เหตุผลของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ที่ไม่ผ่านให้เสนออัตราเก็บภาษีเหล้าเบียร์เพิ่ม เพราะเกรงว่า ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบ, ผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ต้องซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น
ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่ เหล้า-เบียร์ ที่บังคับใช้เมื่อ 16 กันยายน ปีที่แล้ว เป็นจัดเก็บภาษีตามดีกรี
- สุราเก็บภาษีเพิ่มตามดีกรีแอลกฮอลล์
สุรา 700 ซีซี แอลกอฮอล์ 28 ดีกรี เก็บภาษีเพิ่มขึ้น 8 บาท
สุรา 40 ดีกรี เก็บเพิ่ม 30 บาท
สุราขาว เก็บภาษี 84 สตางค์ – 3.50 บาท หรือ สุราในประเทศ ราคาเพิ่มขวดละ 8-30 บาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง









