ประเด็นคือ – หลังราคายางพาราตกต่ำ เกษตรกรชาวพัทลุงหันมาปลูกขมิ้นพืชแซมยางที่สร้างรายได้ไร่ละประมาณ 2 แสนบาท โดยปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 40-45 บาท ซึ่งถือว่าเป็นพืชแซมยางที่มีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด
วันนี้ 1 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรใน ต.บ้านนา และ ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง หันมาปลูกพืชแซมยางจำพวก ขมิ้น กล้วย ถั่วลิสง ตะไคร้ หลังราคายางตกต่ำจนทำให้รายได้จากการทำการเกษตรลดลง โดยเฉพาะการปลูกขมิ้นแซมยางนั้น ชาวสวนในพื้นที่ จ. พัทลุง นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถสร้างรายได้สูงกว่าการปลูกพืชชนิดอื่น เนื่องจากขมิ้นมีประโยชน์มาก สามารถแปรรูปได้หลายอย่าง ทั้งใช้ทำอาหาร สมุนไพร น้ำมันขมิ้น ยารักษาโรค หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอาง ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรไม่ต่ำกว่าไร่ละ 2 แสนบาท
นางอาภรณ์ สีขาว อายุ 49 ปี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านเขาคราม ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เป็นเกษตรกรชาวสวนยางรายหนึ่ง ที่มีปัญหาไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง แต่ก็พยายามร้องขอที่ดินของเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะที่ว่างในร่องสวนยางปลูกใหม่ ใช้ปลูกขมิ้นเป็นพืชแซมยางจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยเริ่มแรกได้ใช้ร่องสวนยางปลูกขมิ้นประมาณ 2 ไร่ ใช้เวลาดูแลประมาณ 6 เดือน เมื่อขมิ้นครบอายุก็ขุดหัวส่งขายให้กับแม่ค้าที่รับซื้อในหมู่บ้าน ก่อนที่จะนำไปส่งขายต่อให้กับผู้ผลิตเครื่องแกง
ระยะหลัง ตลาดภายในและต่างจังหวัดมีความต้องการขมิ้นมากขึ้น เพื่อนำไปใช้ตำเครื่องแกงและใช้ผลิตเป็นน้ำมันขมิ้น ผลิตเป็นยารักษาโรค เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เมื่อตลาดมีความต้องการ จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกขมิ้นเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 5 ไร่ และสามารถขุดขมิ้นขายได้ทุกวัน ทำให้ครอบครัวมีรายได้วันละ 3-4 พันบาททุกวัน และมีรายได้ตลอดปี และปีนี้เป็นปีทองของเกษตรกรที่ปลูกขมิ้น เนื่องจากตลาดภายในและต่างประเทศมีความต้องการขมิ้นจำนวนมาก และจะมีแม่ค้าเดินทางมารับซื้อผลผลิตถึงในหมู่บ้าน ให้ราคากิโลกรัมละ 40-45 บาท โดยสามารถขุดขมิ้นขายได้วันละ 80-100 กก. ทุกวัน
ปัจจุบันราคาขมิ้นพ่อค้ารับซื้อในหมู่บ้าน กก. ละ 40 บาท เกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นจะมีรายได้ไร่ละประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งถือว่าการปลูกขมิ้นเป็นพืชแซมยางที่มีรายได้สูงกว่าพืชทั่วไป
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นแหล่งปลูกผลิตขมิ้นที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง ในแต่ละวันจะมีผลผลิตออกจากหมู่บ้านวันละ 1-2 ตัน พ่อค้าจะรับซื้อเพื่อส่งขายต่อไปที่ตลาดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และส่งไปขายต่อยังประเทศมาเลเชีย
