
ศุลกากรจับสินค้าผิดกฎหมายนำเข้าประเทศล็อตใหญ่ ปลาไหลยุโรปที่ใกล้สูญพันธุ์ ใช้นำไปปรุงเป็นเมนูเด็ดราคาแพง พบแอบสำแดงชนิดสินค้าเป็นกุ้งแช่แข็งหวังตบตาเจ้าหน้าที่
วันที่ 21 ธ.ค. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าปลาไหลยุโรป สายพันธุ์ Anguilla anguilla ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่อยู่ในบัญชีหมายเลข 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และชนิดสัตว์น้ำตามบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์ป่าซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออก

ปลาไหลแก้วหรือปลาไหลยุโรป ที่จับได้ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัวน้ำหนักรวม 400 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารและพยายามแกะรอยพฤติกรรมกลุ่มผู้ค้าที่มีความเสี่ยงจะนำเข้ามายังในประเทศไทย จนพบว่ามีขบวนการลักลอบส่งออกปลาไหลยุโรป สายพันธุ์ Anguilla anguilla จึงสั่งการให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังตรวจสอบสินค้าประเภทปลาไหลยุโรปเป็นพิเศษ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีสินค้าทางอากาศยาน (Manifest) ซึ่งบรรทุกมากับอากาศยาน เที่ยวบินที่ QR830 พบว่ามีสินค้าต้องสงสัยสำแดงชนิดสินค้าเป็นกุ้งแช่แข็ง COOL SHRIMPS จำนวน 3 หีบห่อ น้ำหนัก 357 กิโลกรัม โดยส่งจากประเทศต้นทาง คือ ประเทศโรมาเนีย ส่งมายังผู้รับในประเทศไทย จึงประสานขอความร่วมมือจากหัวหน้าด่านตรวจสัตว์น้ำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในการนำตัวอย่างสินค้าดังกล่าวไปตรวจสอบซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าสินค้าเป็น ปลาไหลยุโรป สายพันธุ์ Anguilla anguilla

และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ยังพบว่ามีข้อมูลการนำเข้าสินค้าตามบัญชีสินค้าทางอากาศยาน (Manifest) สำแดงชนิดสินค้าเป็น COOL SHRIMPS อีกจำนวน 3 หีบห่อ น้ำหนัก 352 กิโลกรัม นำเข้ามาทางสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR838 ขนส่งจากประเทศต้นทางโรมาเนีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ตรวจสอบพบว่าสินค้าเป็น ปลาไหลยุโรป สายพันธุ์ Anguilla Anguilla เช่นเดียวกัน รวมมูลค่าสินค้าทั้งหมด 40 ล้านบาท
สำหรับปลาไหลยุโรป สายพันธุ์ Anguilla anguilla หรือ ปลาไหลแก้ว (Glass eels) กระจายพันธุ์อยู่ตามแถบชายฝั่งแม่น้ำในทวีปยุโรปและใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยที่ปลาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จะว่ายน้ำไปวางไข่ในทะเลซาร์กัสเพียงแห่งเดียว และเมื่อปลาวางไข่แล้วจะตาย ลูกปลาเมื่อฟักเป็นตัวอ่อน จะมีลักษณะโปร่งแสงใสเหมือนวุ้นเส้นและจะเดินทางกลับสู่แม่น้ำทางทวีปยุโรป โดยลอยไปตามกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม

ตัวอ่อนใช้เวลานานถึง 2-3 ปี ในการเดินทางมาถึงชายฝั่งแม่น้ำในทวีปยุโรป และใช้เวลา 8-15 ปี ในการเจริญเติบโตเต็มวัย ปลาไหลยุโรปจัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญชนิดหนึ่งของทวีปยุโรป โดยใช้บริโภคกันมาอย่างยาวนาน สามารถปรุงได้หลายวิธีและจัดเป็นอาหารราคาแพง จนกระทั่งในกลางปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ออกกฎหมายห้ามล่าปลาไหลยุโรปเพื่อการค้าระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนเพราะเกรงว่าจะสูญพันธุ์ ทั้งนี้มีจำนวนประชากรปลาไหลยุโรปลดลงกว่าร้อยละ 95 ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา









